อาเธอร์ เฮย์ส เปิดใจ : ทำไมทรัมป์อาจไม่สนใจตั้งทุนสำรอง Bitcoin

อาเธอร์ เฮย์ส ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของบริษัทร่วมลงทุนด้านสกุลเงินดิจิทัล Maelstrom กล่าวว่า เขาสงสัยว่ารัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ จะริเริ่มการสร้างทุนสำรอง Bitcoin ทางยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นนโยบายที่ชาวคริปโตจำนวนมากตั้งความหวังไว้

“ผมไม่คิดว่าทรัมป์จะริเริ่มสร้างทุนสำรอง Bitcoin” เฮย์ส ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ BitMex กล่าวในการสัมภาษณ์ “ในท้ายที่สุด ผมไม่รู้ว่าการกู้ยืมเงินมาซื้อ Bitcoin จะช่วยอะไรในนโยบายของทรัมป์”

ทรัมป์เองก็มองเห็นประโยชน์ของคริปโต โดยก่อนหน้านี้เขาเคยออกเหรียญมีม (crypto tokens ที่ไม่มีประโยชน์ใช้สอยนอกจากการเก็งกำไรที่ผันผวน) และทำรายได้มหาศาลก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่ง สำหรับผู้สนับสนุน Bitcoin อย่างหนักแน่น การที่สหรัฐฯ มีทุนสำรองในรูปแบบ BTC จะเป็นสิ่งที่เปรียบได้กับ “ความสมบูรณ์แบบสูงสุด”

เฮย์สกล่าวว่า “ผมหวังว่าผมจะคิดผิด” เกี่ยวกับการนำทุนสำรอง BTC ไปใช้ แต่เขาอ้างถึงกรอบเวลาที่จำกัดก่อนการเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งอาจขัดขวางความสามารถในการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญ นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากมายที่ต้องจัดสรรเวลาและงบประมาณ

“คุณสามารถกู้เงินได้ในปริมาณหนึ่งก่อนที่ตลาดพันธบัตรจะพัง แล้วคุณจะกู้มันมาเพื่อซื้อ Bitcoin หรือเปล่า? หรือคุณจะกู้เงินเพื่อให้บริการสุขภาพแก่ผู้สูงอายุที่ลงคะแนนให้คุณ หรือจะสร้างอาวุธเพิ่มเติมเพื่อให้กลุ่มล็อบบี้ด้านการป้องกันประเทศพอใจ?” เฮย์สกล่าว

“มีหลายอย่างที่คุณสามารถกู้เงินไปใช้จ่ายได้ ผมแค่ไม่คิดว่าเขาจะใช้จ่ายไปกับ Bitcoin แม้ว่าพวกที่ชื่นชอบ Bitcoin จะคิดว่าสิ่งนี้สำคัญแค่ไหนก็ตาม ยังมีกลุ่มอื่น ๆ อีกมากที่ต้องการให้เงินกู้ถูกใช้เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขา” เขาเสริม

เฮย์สอาจถูกเรียกว่าเป็นนักลงทุนที่คิดต่าง เขามีทัศนคติแบบตรงไปตรงมาในการลงทุนผ่านกองทุน Maelstrom ของเขา – “พวกเราชอบขยะที่ราคาถูก” [shitcoins] – ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยข้อมูลเชิงลึกในด้านเศรษฐศาสตร์มหภาค โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับวิธีที่รัฐบาลทำให้ความมั่งคั่งของประชาชนทั่วไปลดลง

Maelstrom มักจะให้เงินลงทุนในช่วงเริ่มต้นของโครงการคริปโตในระดับ $50,000-$100,000 และเน้นการซื้อโทเค็นแทนหุ้น ซึ่งความสำเร็จล่าสุดรวมถึงการลงทุนใน Ethena Labs ซึ่งเป็นโครงการเกี่ยวกับ stablecoin

เมื่อพูดถึงการลงทุนของ Maelstrom เฮย์สกล่าวว่า “อย่าหลอกตัวเอง มันคือการเก็งกำไรล้วน ๆ ส่วนใหญ่ของสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นศูนย์ ดังนั้นผมไม่อยากทำให้ดูหรูหราด้วยภาษาเชิงวิชาการ มันคือการเก็งกำไรเท่านั้น”

อ้างอิง : coindesk.com

‍