BlackRock คาด! จีนอาจเริ่มหลีกเลี่ยงการถือพันธบัตรสหรัฐฯ หันมาเป็นทองคำและ Bitcoin

Jay Jacobs หัวหน้าฝ่ายธีมและ ETF ของ BlackRock กล่าวในสัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อวันที่ 25 เมษายนว่า:

ความตึงเครียดทางการเมือง และ ความไม่แน่นอนของโลก เป็นปัจจัยที่เร่งให้ธนาคารกลางหลายแห่งเริ่ม กระจายการลงทุน ไปยังสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น เช่น ทองคำ และ Bitcoin

"การกระจายการลงทุนออกจากสินทรัพย์แบบเดิม ๆ เช่น ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปสู่สินทรัพย์อื่น ๆ เช่น ทองคำและคริปโตเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ 3-4 ปีที่แล้ว" – Jacobs กล่าว

Bitcoin เริ่มมีบทบาทในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศต่าง ๆ เริ่มลดการพึ่งพาสินทรัพย์ดอลลาร์สหรัฐฯ และหันมาลงทุนใน ทองคำ และ Bitcoin เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเงิน

Jacobs กล่าวว่า Bitcoin กำลังกลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงความตึงเครียดทางการเมือง และการกระจายการลงทุนที่มีมากขึ้นในสินทรัพย์ที่ไม่เชื่อมโยงกับตลาดหุ้น

การเคลื่อนไหวของจีนและรัสเซียเป็นจุดเริ่มต้น

Jacobs อ้างถึงกรณีที่ จีน และ รัสเซีย เริ่มปรับกลยุทธ์การสำรองเงินหลังจากที่มีการ แช่แข็งทรัพย์สิน จำนวน 300,000 ล้านดอลลาร์ ของธนาคารกลางรัสเซีย หลังจากการรุกรานยูเครน

การกระทำเหล่านี้กระตุ้นให้ประเทศเหล่านี้เริ่มหันไปใช้ ทองคำ และ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองทางการเงิน แทนการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐฯ

Bitcoin และทองคำ: สินทรัพย์ที่ไม่ขึ้นกับตลาดหุ้น

Jacobs กล่าวเพิ่มเติมว่า Bitcoin กำลังได้รับการมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยร่วมกับ ทองคำ ในช่วงที่ตลาดหุ้นและสกุลเงินต่าง ๆ กำลังเผชิญกับความผันผวน

Bitcoin ETF และ ทองคำ ETF ต่างได้รับ เงินไหลเข้า อย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมา
นักลงทุนนิยมมองหาสินทรัพย์ที่ ไม่เชื่อมโยงกับตลาดหลักทรัพย์ เช่น Nasdaq และ S&P 500

“เรากำลังเห็นการไหลเข้าของเงินทุนจำนวนมากทั้งใน Bitcoin และทองคำ เนื่องจากผู้คนมองหาสินทรัพย์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้น” – Jacobs กล่าว

หลายผู้เชี่ยวชาญในวงการคริปโตเชื่อว่า Bitcoin กำลังเริ่มแยกตัวจากตลาดหุ้น โดยมีการลดการเชื่อมโยงกับตลาดหุ้นลงอย่างชัดเจน

Alex Svanevik CEO ของ Nansen, แพลตฟอร์มข้อมูลคริปโต, กล่าวในวันที่ 22 เมษายนว่า Bitcoin กำลังเติบโตขึ้นเป็นสินทรัพย์ระดับโลกที่ "มีความคล้ายคลึงกับทองคำมากขึ้น"
Svanevik ยังกล่าวว่า Bitcoin มีความทนทานสูงในช่วงที่เกิดสงครามการค้าเมื่อเทียบกับเหรียญ Altcoins และ ดัชนี S&P 500 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้านทานต่อความผันผวน