ทรัมป์ ลงนามคำสั่ง เดินหน้าเก็บภาษีนำเข้า 10% ทั่วโลก

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารกำหนดอัตราภาษีศุลกากรต่อคู่ค้าและอัตราภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับการนำเข้าทั้งหมดจากทุกประเทศ

ทรัมป์กล่าวว่าภาษีตอบโต้จะอยู่ที่ประมาณครึ่งหนึ่งของอัตราภาษีที่ประเทศคู่ค้ากำหนดสำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ตัวอย่างเช่น จีนมีอัตราภาษี 67% สำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ดังนั้น สหรัฐฯ จะกำหนดภาษีตอบโต้สินค้าจีนที่ 34% นอกจากนี้ ทรัมป์ยังประกาศกำหนดภาษีมาตรฐาน 25% สำหรับการนำเข้ารถยนต์ทั้งหมด

ทรัมป์กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ภาษีศุลกากรจะทำให้ประเทศกลับมาเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจดังเช่นศตวรรษก่อนๆ

“ตั้งแต่ปี 1789 ถึงปี 1913 เราเป็นประเทศที่ได้รับการสนับสนุนจากภาษีศุลกากร สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ร่ำรวยมากถึงขนาดที่ในช่วงทศวรรษปี 1880 พวกเขาได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับเงินจำนวนมหาศาลที่พวกเขาเก็บได้”

"แล้วในปี 1913 ด้วยเหตุผลที่ไม่อาจเข้าใจได้ พวกเขาได้ตั้งภาษีเงินได้ขึ้นมา ทำให้ประชาชนต้องเป็นผู้จ่ายแทนที่จะเป็นประเทศต่างๆ" ทรัมป์กล่าว

ทรัมป์นำเสนอภาษีศุลกากรผ่านมุมมองของการคุ้มครองเศรษฐกิจและนัยว่าจะกลับไปสู่นโยบายเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 19 โดยใช้ภาษีเหล่านี้มาแทนที่ภาษีเงินได้

ทรัมป์ยังเสนอแนวคิดการยกเลิกกรมสรรพากร (IRS) และให้เงินทุนแก่รัฐบาลกลางโดยเฉพาะผ่านภาษีการค้าในขณะที่ยังอยู่ในช่วงการหาเสียงในเดือนตุลาคม 2024

ตามข้อมูลของบริษัท Dancing Numbers ซึ่งเป็นบริษัทบัญชีและซอฟต์แวร์อัตโนมัติ แผนของทรัมป์นั้นสามารถช่วยให้ผู้เสียภาษีชาวอเมริกันประหยัดภาษีได้คนละ 134,809-325,561 ดอลลาร์ ตลอดชีวิต

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฮาวเวิร์ด ลุตนิค ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ยังแสดงความสนับสนุนให้มีการแทนที่กรมสรรพากร (IRS) ด้วย “External Revenue Service” อีกด้วย

ลุตนิกกล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สามารถจัดทำงบประมาณให้สมดุลได้ แต่กลับเรียกร้องเงินจากพลเมืองมากขึ้นทุกปี ภาษีศุลกากรจะช่วยปกป้องคนงานชาวอเมริกันและเสริมสร้างเศรษฐกิจสหรัฐฯ อีกด้วย เขากล่าว

‍

อ้างอิง : cointelegraph.com

ภาพ oklahomavoice.com

‍

‍

‍

‍

‍

‍

‍