จะป้องกันการโกงเหรียญคริปโตได้อย่างไรบ้าง | รู้ทันกลโกงเหรียญ

‍

การลงทุนในคริปโตฯ นั้นได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ความนิยมนี้ก็นำพามาพร้อมกับความเสี่ยงในการถูกโกงเหรียญเช่นกัน หลายคนได้ถูกหลอกลงทุนคริปโตฯ และสูญเสียเงินไปโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นการรู้ทันกลโกงเหรียญจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราปลอดภัยจากการโดนหลอก

ประเภทความเสี่ยงจากการลงทุน

การลงทุนในคริปโตฯ นับว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งสามารถแบ่งความเสี่ยงออกเป็นสามประเภทหลัก ได้แก่ ความเสี่ยงเชิงระบบ (Systematic Risk), ความเสี่ยงไม่เชิงระบบ (Unsystematic Risk), และความเสี่ยงส่วนบุคคล (Personal Risk)

ความเสี่ยงเชิงระบบ (Systematic Risk)

ความเสี่ยงเชิงระบบคือความเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อตลาด ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น ความผันผวนทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงิน หรือการเสื่อมค่าเงินคริปโตฯ ความเสี่ยงนี้อาจทำให้นักลงทุนได้รับผลกระทบโดยตรง แม้ว่าเหรียญที่ลงทุนนั้นจะมีพื้นฐานที่ดี ความเสี่ยงเชิงระบบยังรวมถึงการโกงเหรียญที่เกิดขึ้นทั่วทั้งตลาด ส่งผลให้นักลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่นในเงินคริปโตฯ เช่น กรณีของการโดนหลอกให้ลงทุน Bitcoin หรือเหตุการณ์โกงเหรียญที่ใหญ่ ๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในตลาดและเป็นข่าวสารตามสื่อต่างๆทำให้นักลงทุนเสียความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในคริปโตฯ

ความเสี่ยงไม่เชิงระบบ (Unsystematic Risk)

ความเสี่ยงไม่เชิงระบบเป็นความเสี่ยงที่เฉพาะเจาะจงต่อตัวเหรียญหรือโปรเจกต์ที่ลงทุน เช่น ปัญหาด้านเทคโนโลยี การถูกแฮ็ก หรือปัญหาภายในบริษัทที่ออกเหรียญ การศึกษาข้อมูลพื้นฐานของเหรียญและทีมงานที่พัฒนาเหรียญจึงมีความสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงนี้ นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากการโกงเหรียญออนไลน์ ซึ่งเป็นการหลอกลงทุนคริปโตฯ ที่นักลงทุนบางรายอาจเผชิญ การระวังตัวและตรวจสอบข้อมูลจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ความเสี่ยงส่วนบุคคล (Personal Risk)

ความเสี่ยงส่วนบุคคลเกิดจากการตัดสินใจและการจัดการด้านการเงินของนักลงทุนเอง เช่น การลงทุนน้อยเกินไปหรือมากเกินไป การไม่เข้าใจกลไกการทำงานของคริปโตฯ หรือการลงทุนตามความรู้สึกโดยขาดการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ความเสี่ยงจากการโดนหลอกให้ลงทุน Bitcoin หรือคริปโตฯ ประเภทอื่น ๆ ยังเกิดจากการไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลและความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลได้อย่างถูกต้อง การมีสติและการทำการบ้านที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงส่วนบุคคลได้มาก

‍

การลงทุนในคริปโตฯ นั้นมีความเสี่ยงสูง ดังนั้นนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ และมีความระมัดระวังในการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

รูปแบบกลโกงในโลกคริปโตฯ

การลงทุนในคริปโตฯ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย นอกเหนือจากโอกาสที่จะได้กำไรสูงยังมีความเสี่ยงที่สำคัญที่นักลงทุนควรระวัง นั่นคือ การโกงเหรียญในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายวิธี รูปแบบกลโกงที่พบบ่อยในโลกคริปโตฯ เพื่อให้คุณสามารถป้องกันตนเองจากการโดนหลอกลงทุนคริปโตฯ มีรูปแบบดังนี้

โกงผ่านโครงการ ICO (Initial Coin Offering)

การเสนอขายเหรียญในครั้งแรกหรือ ICO เป็นวิธีการระดมทุนที่แพร่หลายในโลกคริปโตฯ ซึ่งนักลงทุนจะซื้อเหรียญที่ยังไม่มีการทำตลาดจริง แต่เพียงเป็นการระดมทุนเพื่อนำไปพัฒนาโครงการ หากโครงการประสบความสำเร็จ ราคาของเหรียญก็จะเพิ่มขึ้น แต่ปัญหาคือ มีหลายโครงการที่สร้างขึ้นมาเพียงเพื่อหลอกลวงนักลงทุนโดยไม่มีเจตนาที่จะพัฒนาโครงการจริง ICO เป็นช่องทางที่สะดวกในการโกงเหรียญ เพราะผู้โกงสามารถสร้างโครงการปลอมขึ้นมาโดยอ้างถึงเทคโนโลยีหรือแนวคิดที่ฟังดูน่าสนใจ เมื่อระดมทุนได้ครบตามเป้า ผู้โกงก็จะหายตัวไปพร้อมกับเงินคริปโตฯที่ได้รับ ทำให้นักลงทุนที่หลงเชื่อสูญเสียเงินไปในที่สุด

โกงผ่านโครงการ DeFi (Decentralized Finance)

DeFi เป็นอีกหนึ่งกระแสที่มาแรงอย่างมากในวงการคริปโตฯ เนื่องจากการที่ไม่ต้องพึ่งพาธนาคารหรือสถาบันการเงินในการทำธุรกรรม แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นช่องโหว่ให้ผู้โกงสามารถใช้โปรเจ็กต์ปลอมที่มีเจตนาหลอกลวงเพื่อขโมยเงินจากนักลงทุนได้อย่างง่ายดาย

การโกงผ่าน DeFi มักเกิดขึ้นโดยการสร้างโปรเจ็กต์ปลอมขึ้นมา หรือแก้ไขโค้ดของ Smart Contract ให้มีช่องโหว่เพื่อขโมยเงิน นักลงทุนที่ไม่ได้ศึกษาและตรวจสอบโครงการอย่างละเอียดมักจะตกเป็นเหยื่อของกลโกงเหล่านี้

โกงผ่านการแลกเปลี่ยนปลอม

การแลกเปลี่ยนคริปโตฯ ผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกในการซื้อขายเหรียญคริปโตฯ แต่มันก็เป็นช่องทางหนึ่งที่ผู้โกงใช้ในการหลอกลวงนักลงทุน โดยการสร้างแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนปลอมขึ้นมา เว็บไซต์แลกเปลี่ยนปลอมมักจะมีลักษณะคล้ายกับเว็บไซต์จริง แต่เมื่อคุณทำการฝากเงินคริปโตฯเข้าไปแล้ว จะไม่สามารถถอนเงินกลับออกมาได้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนสูญเสียเงินไปโดยไม่สามารถติดตามตัวผู้โกงได้

โกงผ่านการปั่นราคา (Pump and Dump)

การปั่นราคาหรือ Pump and Dump เป็นกลโกงที่ผู้โกงจะทำการซื้อเหรียญคริปโตฯ ชนิดหนึ่งในปริมาณมาก เพื่อดันราคาให้สูงขึ้น หลังจากนั้นจะปล่อยข่าวปลอมเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดให้นักลงทุนรายย่อยเข้ามาซื้อเหรียญในราคาสูง เมื่อราคาถึงจุดที่ผู้โกงต้องการแล้ว จะทำการขายเหรียญทั้งหมดออกมาอย่างรวดเร็ว ทำให้ราคาตกลงอย่างมาก

‍

นักลงทุนที่เข้ามาซื้อเหรียญในช่วงที่ราคาถูกปั่นขึ้นมามักจะสูญเสียเงินจำนวนมาก เนื่องจากราคาที่ตกลงอย่างรวดเร็วทำให้พวกเขาไม่สามารถขายเหรียญได้ทันเวลา

โกงผ่านการแฮ็กบัญชี

การแฮ็กบัญชีเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ผู้โกงใช้ในการขโมยเงินคริปโตฯ โดยการเข้าถึงบัญชีผู้ใช้ผ่านการเจาะระบบ หรือการฟิชชิง (Phishing) เพื่อขโมยข้อมูลการเข้าสู่ระบบ เมื่อเข้าถึงบัญชีได้แล้ว ผู้โกงจะทำการย้ายเงินคริปโตฯ ออกไปยังบัญชีของตนเอง 

การป้องกันการแฮ็กบัญชีทำได้โดยการใช้การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) และการเก็บรักษาคีย์ส่วนตัว (Pass Key)  อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนน้อยรายที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัย ทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการโดนแฮ็กสูง

โกงผ่านการใช้เหรียญปลอม

การสร้างเหรียญปลอมเป็นอีกหนึ่งวิธีการโกงที่พบบ่อย ผู้โกงจะสร้างเหรียญที่คล้ายกับเหรียญที่มีชื่อเสียงแล้วทำการขายให้กับนักลงทุนที่ไม่ทันระวัง ซึ่งมักจะหลงเชื่อว่ากำลังซื้อเหรียญจริง เมื่อค้นพบว่าเป็นเหรียญปลอมแล้วก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะไม่สามารถติดตามผู้โกงได้

มาตรการป้องกันการถูกจับในกลโกง Cryptocurrency?

การลงทุนในคริปโตฯ เป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน แต่ก็มีความเสี่ยงในการถูกหลอกลงทุนคริปโตฯ อย่างมาก ดังนั้นการรู้จักมาตรการป้องกันตนเองจากการถูกโกงเหรียญออนไลน์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

การศึกษาและวิจัย

การศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับคริปโตฯ ที่คุณสนใจเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญมาก ควรหาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบประวัติของเหรียญและผู้พัฒนาก่อนการลงทุน เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนหลอกให้ลงทุน Bitcoin ที่ไม่มีคุณค่า

การใช้ Wallet ที่ปลอดภัย

การใช้กระเป๋าเงินคริปโตฯ ที่มีความปลอดภัยสูงจะช่วยป้องกันการถูกแฮ็กและการสูญเสียเงินคริปโตฯ ของคุณ ควรเลือกใช้ Wallet ที่มีการรับรองความปลอดภัยและมีระบบการยืนยันตัวตนหลายชั้น

หลีกเลี่ยงข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง

หากมีข้อเสนอการลงทุนที่สัญญาว่าจะได้ผลตอบแทนสูงอย่างไม่น่าเชื่อ ควรระวังเป็นพิเศษ เพราะโอกาสที่คุณจะโดนหลอกลงทุนคริปโตฯ มีสูง ข้อเสนอแบบนี้มักเป็นการโกงเหรียญออนไลน์ที่ใช้หลอกเหยื่อที่ไม่ระวังตัว

ตรวจสอบประวัติและรีวิว

การตรวจสอบประวัติและรีวิวของแพลตฟอร์มหรือผู้ที่ชักชวนให้คุณลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ การที่แพลตฟอร์มหรือบุคคลนั้น ๆ มีประวัติการโกงหรือรีวิวที่ไม่ดีจะเป็นสัญญาณเตือนให้คุณระวัง

การใช้งาน 2-Factor Authentication (2FA)

การเปิดใช้งานการยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (2FA) สำหรับบัญชีคริปโตฯ ของคุณจะช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัย ป้องกันการถูกเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาตและลดโอกาสที่จะโดนโกงเหรียญออนไลน์

ระวังการ Phishing

การโจมตีแบบ Phishing เป็นวิธีที่นักโกงใช้บ่อยที่สุดในการหลอกให้คุณเปิดเผยข้อมูลสำคัญ ควรระวังอีเมลหรือเว็บไซต์ปลอมที่พยายามขอข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลการเข้าถึงบัญชีของคุณ

‍

การรู้ทันกลโกงเหรียญและการป้องกันตนเองจากการถูกหลอกลงทุนคริปโตฯ เป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนทุกคนควรให้ความสำคัญ รวมถึงการศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับคริปโตฯ  การเลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ การตรวจสอบโครงการและผู้พัฒนา รวมถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว จะช่วยให้คุณปลอดภัยจากการโดนหลอกให้ลงทุน Bitcoin หรือเงินคริปโตฯ อื่น ๆ ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ