Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
นักลงทุนจำนวนไม่น้อยเกิดความงุนงงเมื่อราคา Bitcoin พุ่งแตะ $85,000 แม้ตลาดหุ้นอย่าง S&P 500 จะร่วงลงถึง 5.7% ในเดือนเมษายน อย่างไรก็ตาม การดีดตัวกว่า 14% ของ BTC จากจุดต่ำ $74,400 หลังความกังวลเรื่องสงครามการค้า กลับสร้างความหวังว่าราคาจะไปต่อถึง $90,000 ได้ในไม่ช้า
ข้อมูลหลายด้านเริ่มชี้ให้เห็นว่า Bitcoin อาจเริ่ม “แยกตัว” (Decoupling) จากตลาดการเงินดั้งเดิม แต่นักลงทุนบางส่วนยังคงสงสัย เนื่องจาก BTC ยังไม่ได้ทำผลงานได้เท่าทองคำที่พุ่งทำ All-time High ที่ $3,358 เมื่อวันที่ 16 เม.ย. โดยนักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางและรัฐบาลทั่วโลกกำลังเร่งสะสมทองคำ
แม้ Fed ยังไม่เดินหน้าลดดอกเบี้ยหรือขยายงบดุล แต่นานาประเทศเริ่มใช้นโยบายผ่อนคลายแล้ว ตัวอย่างเช่น:
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ร่วงลงต่ำสุดในรอบ 3 ปี สร้างแรงกดดันให้ Fed ต้องผ่อนคลายนโยบายทางการเงินมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Fed ยังคงระมัดระวัง โดย Jerome Powell กล่าวเมื่อวันที่ 16 เม.ย. ว่า
“ตลาดแรงงานยังอยู่ในสภาพแข็งแกร่ง”
ข้อมูลจากกระทรวงแรงงานก็ยืนยันเรื่องนี้ โดยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลง 9,000 ราย เหลือ 215,000 ราย ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 12 เม.ย.
ในขณะเดียวกัน ความมั่นคงทางการเมืองของสหรัฐก็ถูกตั้งคำถาม เมื่อ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาตำหนิ Powell อย่างรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้ลดดอกเบี้ย และกล่าวว่า:
“Powell ควรถูกปลดโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
แม้หลายฝ่ายกังวลว่า “Halving” เมื่อเมษายน 2024 จะทำให้รายได้ของนักขุดลดลง แต่ข้อมูลล่าสุดจาก Glassnode เผยว่า แรงขุด (Hashrate) เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน
ปัจจุบันนักขุดถือ BTC รวมกันเกือบ 1.8 ล้านเหรียญ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในอนาคตของเครือข่าย Bitcoin แม้ต้องเผชิญกับแรงกดดันภายนอก
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ techmgzn.com