Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาของ Bitcoin เผชิญแรงขายอย่างหนัก ลดลงจาก $84,500 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม เหลือ $81,300 ในขณะที่เขียนบทความนี้ การร่วงลงดังกล่าวน่าจะเป็นผลมาจากแรงเทขายที่เกี่ยวข้องกับการประชุม Federal Open Market Committee (FOMC) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคม
โดยปกติแล้ว การประชุมของ FOMC มักทำให้ตลาดเกิดความผันผวน ทุกครั้งที่ FOMC ประชุมเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐฯ ตลาดคริปโตมักจะมีการปรับตัวล่วงหน้า
นักเทรดมักลดความเสี่ยงและลดเลเวอเรจก่อนการประกาศผลประชุม และหลังจากแถลงข่าวโดย เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ตลาดมักจะมีการเคลื่อนไหวรุนแรง
ในครั้งนี้ แถลงการณ์ผลประชุม FOMC จะออกมาในวันพุธที่ 19 มีนาคม เวลา 14:30 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ (ET) ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาของ Bitcoin อย่างมีนัยสำคัญ
นักเทรดกำลังจับตาดูแถลงการณ์ของ FOMC เพื่อวิเคราะห์ท่าทีของธนาคารกลางเกี่ยวกับ อัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ
จากข้อมูลในอดีต พบว่า ราคาของ Bitcoin มักปรับตัวลดลงหลังจากที่ FOMC คงอัตราดอกเบี้ย ยกเว้นช่วงที่เกิด "Pre-Halving Rally" ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับการเปิดตัว Bitcoin Spot ETF
นอกจากนี้ เมื่อเฟดตัดสินใจ ลดอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 18 กันยายน 2024 และ 7 พฤศจิกายน 2024 Bitcoin กลับพุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2024 ไม่ได้ทำให้ราคาพุ่งขึ้นแบบเดิม โดยราคาสูงสุดในช่วงนั้นอยู่ที่ $108,000
ตัวชี้วัดสำคัญที่ช่วยให้เห็นแนวโน้มของตลาดคือ Open Interest ของ Bitcoin ซึ่งหมายถึงจำนวนสัญญาฟิวเจอร์สที่ยังค้างอยู่ในตลาด
ปกติแล้ว Open Interest ของ Bitcoin มักจะลดลงก่อนการประชุม FOMC แสดงให้เห็นว่านักเทรดลดเลเวอเรจและลดความเสี่ยง แต่ในรอบนี้ กลับไม่พบการลดลงของ Open Interest แม้ว่าเมื่อต้นเดือนมีการล้างพอร์ตมูลค่า $12,000 ล้านดอลลาร์
การที่ Open Interest ยังคงที่แต่ราคาของ BTC กลับลดลง อาจหมายถึงนักลงทุนบางกลุ่มกำลังเดิมพันว่าราคาจะเคลื่อนไหวในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ CME Group’s FedWatch Tool ระบุว่า โอกาสที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25%–4.50% อยู่ที่ 99% ซึ่งอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมนักลงทุนจึงไม่กังวลมากนักเกี่ยวกับการประชุมครั้งนี้
หากเฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย Bitcoin อาจยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่นักลงทุนรายใหญ่ (Whale) คาดการณ์ไว้ โดยก่อนหน้านี้ มีการเปิดสถานะ Short 40x เลเวอเรจ มูลค่ากว่า $500 ล้าน แต่ตำแหน่งดังกล่าวได้ถูกปิดไปแล้ว
แตกต่างจากนักลงทุนรายใหญ่ นักลงทุนใน Spot Bitcoin ETFs มักขายสินทรัพย์ก่อนการประชุม FOMC
ตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมกราคม 2024 กองทุน Spot BTC ETF มักเผชิญกับการไหลออกของเงินทุนก่อนการประชุม FOMC หรืออย่างมากก็มีเม็ดเงินไหลเข้าเพียงเล็กน้อย
แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป!
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม กองทุน Spot Bitcoin ETFs มียอดไหลเข้าสุทธิ $275 ล้าน ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่านักลงทุนกำลังคาดการณ์ว่าการประชุม FOMC อาจส่งผลเชิงบวกต่อตลาด
การไหลเข้าอย่างต่อเนื่องอาจบ่งบอกว่านักลงทุน คาดการณ์ว่าเฟดจะมีท่าทีเชิงบวก เช่น การส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต หรืออย่างน้อยก็รักษาสภาพคล่องในตลาด
อีกปัจจัยหนึ่งที่อาจส่งผลต่อพฤติกรรมของนักลงทุนคือ การคาดการณ์ว่า Bitcoin อาจเกิด Short Squeeze หากนักเทรดจำนวนมากเปิดสถานะ Short แต่ราคากลับพุ่งขึ้นเพราะ ETF ไหลเข้ามากขึ้น ก็อาจทำให้เกิดแรงบีบ Short Position ซึ่งดันราคาขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากการประชุม FOMC ข้อมูลจากตลาดสปอต, On-Chain Data และการไหลเข้าของ ETF จะเป็นตัวชี้ว่าวัฏจักรนี้เป็นการสะสมระยะยาว หรือเป็นเพียงการเก็งกำไรระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักเทรดเห็นพ้องต้องกันคือ Bitcoin อาจมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่หลังจากการประชุม FOMC ดังที่นักเทรดชื่อ Master of Crypto ได้โพสต์บน X ว่า
“FOMC กำลังมา และ Big Move กำลังเกิดขึ้น”
แม้ว่าจะไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ย แต่หากเฟดออกแถลงการณ์เชิงบวก ตลาดก็อาจฟื้นตัวขึ้นได้ ในทางกลับกัน หากเฟดไม่มีสัญญาณสนับสนุนตลาด ราคาของ Bitcoin อาจเผชิญแรงกดดันต่อไป
อ้างอิง : cointelegraph.com