Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
Jamie Dimon ซีอีโอของ JPMorgan Chase ออกโรงเตือนว่า ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (U.S. Treasury) ซึ่งมีมูลค่ารวมเกือบ 30 ล้านล้านดอลลาร์ กำลังเผชิญความเสี่ยงที่จะเกิดความปั่นป่วน ซึ่งอาจทำให้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต้องเข้ามาแทรกแซงอีกครั้งเหมือนในช่วงต้นของการระบาดโควิด-19
“จะต้องมีความวุ่นวายในตลาดพันธบัตรแน่ ๆ เพราะกฎระเบียบที่มีอยู่มากมาย” Dimon กล่าวระหว่างการประชุมผลประกอบการเมื่อวันศุกร์ พร้อมเสริมว่า “Fed จะไม่ลงมือ จนกว่าพวกเขาจะเริ่มตื่นตระหนกกันเล็กน้อย”
คำเตือนของ Dimon เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) พุ่งสูงขึ้น และความผันผวนในตลาดก็เพิ่มขึ้นตามมา ซึ่งสื่อถึงว่า นักลงทุนเริ่มถอยห่างจากกลยุทธ์การเก็งกำไรที่เคยนิยมในตลาดพันธบัตร โดยเฉพาะการเล่นส่วนต่างราคาระหว่างพันธบัตรและฟิวเจอร์ส ส่งผลให้ตลาดที่เปราะอยู่แล้วจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ กับจีน ยิ่งตึงเครียดขึ้นอีก
Dimon ชี้ว่า กฎเกณฑ์ในปัจจุบัน ขัดขวางไม่ให้ธนาคารสามารถเข้ามาซื้อพันธบัตรได้อย่างคล่องตัว เมื่อเกิดภาวะสภาพคล่องตึงตัว ซึ่งคล้ายกับที่เกิดขึ้นในปี 2020 จนทำให้ Fed ต้องเปิดตัวโปรแกรมซื้อพันธบัตรขนาดหลายล้านล้านดอลลาร์ เพื่อพยุงตลาดไม่ให้ล่ม
เขายังเสนอแนวทางการ ปฏิรูปกฎเกณฑ์ โดยหนึ่งในไอเดียที่ถูกพูดถึงคือ การยกเว้นพันธบัตรรัฐบาลจากการคำนวณ Leverage Ratio ซึ่งจะทำให้ธนาคารสามารถถือครองพันธบัตรได้มากขึ้น โดยไม่กระทบต่ออัตราส่วนเงินกองทุนสำรอง
“ถ้าไม่เปลี่ยนกฎพวกนี้ Fed ก็จะต้องเข้ามาอีก ซึ่งผมคิดว่าเป็นแนวทางที่ผิด” – Dimon กล่าว
ตลาด Treasury ถือเป็นหัวใจของระบบการเงินโลก โดยมีบทบาทกำหนดอัตราดอกเบี้ยในภาคต่าง ๆ ตั้งแต่สินเชื่อบ้าน ไปจนถึงพันธบัตรเอกชน Dimon เตือนว่า หากระบบเกิดอาการ “ล็อก” เหมือนปี 2020 อีกครั้ง ผลกระทบจะลุกลามไปทั่วเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ หากเกิดวิกฤตอีกครั้ง บางนักลงทุนอาจหันไปหาทางเลือกอย่าง Bitcoin (BTC) ซึ่งมักถูกมองว่าเป็น “ที่หลบภัย” ในช่วงที่นโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะไม่แน่นอน
สถานการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2020 เมื่อราคาของ Bitcoin พุ่งขึ้นอย่างมากหลังจาก Fed ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ (QE) อย่างไรก็ตาม ปัจจัยอื่น เช่น การ Halving ของ Bitcoin ในปีนั้น ก็มีส่วนสนับสนุนราคาด้วยเช่นกัน
อ้างอิง : coindesk.com
ภาพ dlnews.com