Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
Ethereum กำลังเผชิญแรงกดดันหนักในตลาด ETF เมื่อล่าสุด มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (AUM) ของกองทุน Spot Ethereum ETF ลดลงเหลือเพียง $4.57 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 18 เมษายน — นับเป็นจุดต่ำสุดตั้งแต่กองทุนประเภทนี้เปิดตัว
กองทุนเหล่านี้เผชิญกับกระแสเงินไหลออกสุทธิติดต่อกันถึง 7 สัปดาห์ รวมมูลค่าการถอนสูงถึง $1.1 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาดังกล่าว
หนึ่งในกองทุนที่ถูกถอนทุนมากที่สุดคือ ETHE ของ Grayscale ซึ่งเรียกเก็บ ค่าบริหารจัดการสูงถึง 2.5% ขณะที่คู่แข่งรายใหญ่อย่าง BlackRock เสนออัตราเพียง 0.25% เท่านั้น
หลายคนมองว่าค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไป เป็นอุปสรรคใหญ่สำหรับนักลงทุนสายถือยาว โดยเฉพาะในตลาดที่ความผันผวนสูงเช่นนี้
คล้ายกับกรณีของ GBTC ที่เคยเกิดขึ้น นักลงทุนเทขายหนักหลังหมดช่วงล็อกเหรียญ และหันไปลงทุนในกองทุนทางเลือกที่มีต้นทุนต่ำกว่า
แม้ตลาดจะผันผวน แต่ ETF ของ Bitcoin ยังรักษาระดับ AUM ได้ดีกว่า เพราะได้รับการยอมรับในฐานะ "ทองคำดิจิทัล" และถูกเข้าใจง่ายกว่าในสายตาสถาบัน
ตรงกันข้ามกับ Ethereum ที่บทบาทในฐานะ “เครือข่าย” มีความซับซ้อน จึงทำให้บางกลุ่มนักลงทุนสถาบันยังลังเล
นอกจากนี้ ท่าทีที่ระมัดระวังของ SEC ต่อการ Staking ก็ยิ่งตัดจุดเด่นสำคัญของ ETH ไปอีก เพราะนักลงทุนจำนวนมากมองว่า “ผลตอบแทนจากการ Stake” คือจุดขายของ ETH
ยิ่งมีการยื่นขอกองทุน ETF ใหม่ ๆ สำหรับเหรียญอย่าง SOL, XRP และ LTC มากขึ้นเท่าไร ตลาด ETF คริปโตยิ่งเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ "ทุนกระจายบาง" (fragmentation)
ซึ่งอาจทำให้แต่ละกองทุนไม่สามารถดึงเม็ดเงินได้ถึง “จุดคุ้มทุน” และขาดแรงดึงดูดในสายตาพอร์ตของนักลงทุนสถาบัน
อ้างอิง : theblock.co