Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
วุฒิสมาชิกสหรัฐ เอลิซาเบธ วาร์เรน ออกมาเตือนว่า หากอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้าปลด เจอโรม พาวเวลล์ ออกจากตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) จริง อาจทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก และนำไปสู่ วิกฤตการเงินครั้งใหญ่
ในบทสัมภาษณ์กับรายการ CNBC วุฒิสมาชิกจากรัฐแมสซาชูเซตส์กล่าวว่า
“ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการปลดประธานเฟด และถ้าทำจริง จะเป็นการบั่นทอนเสถียรภาพทางการเงินของสหรัฐฯ อย่างหนัก”
เธอยังเสริมว่า...
“ถ้า พาวเวลล์ โดนปลดโดยอำนาจทางการเมือง ตลาดจะพังแน่นอน เพราะโครงสร้างสำคัญของเศรษฐกิจที่มั่นคงมาจากการที่ธนาคารกลางเป็นอิสระจากรัฐบาล”
“ถ้าดอกเบี้ยในประเทศถูกควบคุมโดยผู้นำที่แค่ ‘โบกไม้กายสิทธิ์’ ได้ โลกจะมองสหรัฐไม่ต่างจากเผด็จการประเทศเล็กๆ”
ทรัมป์ แสดงความไม่พอใจต่อ พาวเวลล์ มาหลายครั้ง โดยเฉพาะเรื่องที่ประธานเฟด ไม่ยอมลดดอกเบี้ย ทั้งที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
การลดดอกเบี้ยมักจะส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ตลาดหุ้น และคริปโตเคอร์เรนซี เพราะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุน ซึ่งทรัมป์มองว่าจำเป็นในช่วงที่สหรัฐฯ เจอแรงกดดันจาก สงครามการค้า และความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลก
ล่าสุด ทรัมป์โพสต์ใน Truth Social เมื่อวันที่ 17 เม.ย. เรียกร้องให้ปลด พาวเวลล์ อีกครั้ง ทำให้เกิดกระแสข่าวว่าเขาอาจลงมือจริง หากได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย
ริก สก็อตต์ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน ก็ออกโรงหนุนหลังทรัมป์ โดยระบุว่า...
“ถึงเวลาแล้วที่จะล้างบางคนในเฟดที่ไม่ยืนหยัดเพื่อผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน”
เขายังเผยผ่านบทความบน Fox News ว่าควรเปลี่ยนทีมบริหารของเฟดที่ไม่เห็นด้วยกับแนวนโยบายการเงินแบบกระตุ้นเศรษฐกิจ
นักวิเคราะห์และนักลงทุนชื่อดัง แอนโธนี่ ปอมปลิอาโน เสนอทฤษฎีที่น่าสนใจว่า ทรัมป์อาจ จงใจทำให้ตลาดการเงินตกต่ำ เพื่อกดดันให้เฟดลดดอกเบี้ย
เขายกตัวอย่างว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี เคยร่วงลงมาเหลือเพียง 4% ก่อนจะดีดกลับขึ้นมาที่ 4.3% ในเวลาต่อมา
อ้างอิง : cointelegraph.com