Announcement เปลี่ยนจากตรงนี้

August 31, 2022
บทความ

“Blockfolio by FTX” เช็คพอร์ตคริปโตของเราในทุก Exchange ผ่านแอพพลิเคชั่นเดียว!

1) Blockfolio คืออะไร?

Blockfolio เป็น Product ของเว็บเทรด FTX ที่ทาง FTX เข้าไปซื้อกิจการจาก Blockfolio ดั้งเดิมตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมปี 2020 ด้วยมูลค่ากว่า 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อหวังจะขยายแบรนด์ FTX สำหรับการบริการในตลาดคริปโตแบบครบวงจร ซึ่งเดิมทีนั้น Blockfolio มีฐานลูกค้าผู้ใช้งานมากถึง 6 ล้านคนเลยทีเดียว

โดย Blockfolio นั้นสามารถให้ผู้ใช้งาน Tracking Portfolio ของเราได้จากทุกๆ Exchange ที่ Blockfolio มีการรองรับ เช่น FTX, Binance, Coinbase, OKX, KuCoin, HitBTC โดยเราสามารถเช็คข้อมูลเกี่ยวกับพอร์ตของเราได้แทบจะทุกอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็น กำไรขาดทุนรายวันและทั้งหมด, สัดส่วนเหรียญที่เราถือจากทุก Exchange รวมไปถึงข้อมูลและราคาของเหรียญนั้นๆแบบ Real Time อีกด้วย

ซึ่งในมุมมองส่วนตัวของผมที่เป็นผู้ใช้งานจริง มองว่าเป็นแอพพลิเคชั่นที่มีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ใช้งานง่าย, UX/UI ดี และเหมาะสำหรับบุคคลทุกประเภทที่มีการกระจายเหรียญคริปโตของเราไปในหลายๆ Exchange เนื่องจากเราไม่ต้องเสียเวลาเข้าไปนั่งเช็คกำไรขาดทุนของเราทุก Exchange เพียงแค่เข้ามา Blockfolio ที่เดียวก็มีการแสดงผลให้ทุกอย่างเลยนั่นเอง

2) วิธีการใช้งาน Blockfolio

เริ่มต้นก็ต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาก่อน โดย Blockfolio นั้นมีการรองรับทั้งในระบบ iOS และ Android ซึ่งหากเราเสิร์ชชื่อ Blockfolio ใน App Store หรือ Play Store มันจะไม่ขึ้นโชว์ให้เนื่องจาก FTX ได้เปลี่ยนชื่อ Blockfolio เป็น “FTX” เลย

โดยหากเราเสิร์ชว่า FTX มันจะขึ้นสองแอพพลิเคชั่นนี้ ซึ่ง FTX Pro: Trade Crypto จะเป็นแอพสำหรับการเทรดทั่วไป และ FTX: Buy & Sell Crypto ก็คือแอพ Blockfolio นั่นเองครับ โดยผู้ใช้งานที่ใช้ Play Store นั้นจะขึ้นโชว์เป็นตัวหนังสือเล็กๆด้านล่าง FTX: Buy & Sell Crypto เลยว่า Blockfolio, Inc ก็สามารถกดดาวโหลดได้เลยครับ

หากติดตั้งแอพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ใครมี Accout ของ FTX ก็สามารถล็อคอินด้วยบัญชีนั้นๆได้เลย แต่หากใครไม่มีก็สามารถล็อคอินด้วย Google ได้เช่นกัน

หลังจากล็อคอินเสร็จเรียบร้อยแล้ว หน้าจอของเราก็จะขึ้นหน้าตาตามรูปซ้ายมือ ให้เรากดไปที่ “More” ด้านล่างขวามือ ซึ่งหลังจากกด More แล้ว ก็จะขึ้นเมนูตามรูปขวามือ ให้เลือกไปที่คำว่า “Track” ด้านบนเมนูที่สาม ซึ่งใน Portfolio ของเราจะยังไม่ขึ้น Balance ใดๆ เราก็จะต้องทำการเพิ่ม Exchange ที่เรามีเหรียญคริปโตให้ Blockfolio สามารถ Track ได้ โดยการกดที่เครื่องหมายบวกได้เลยครับ

หลังจากกดที่เครื่องหมายบวกเข้ามาแล้ว เราก็สามารถเลือก Exchange ต่างๆที่ทาง Blockfolio รองรับได้เลย ซึ่ง Exchange ส่วนมากก็จะเป็น Global Exchage เจ้าดังๆทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น  FTX, FTX US, Binance, Binance US, Coinbase, Coinbase Pro, Bitfinex, Bitstamp, Bittrex, Kraken, OKX, KuCoin, HitBTC 

พอเราได้ Exchange ที่ต้องการแล้ว ก็กดเข้าไปที่ Icon ของ Exchange นั้นๆได้เลย โดยในวันนี้ผมจะมาสอนวิธีเชื่อมต่อ Portfolio ของเราใน Binance เข้ากับ Blockfolio ครับ

หลังจากกดเข้ามาแล้ว เราจะต้องใส่ข้อมูล Api Key และ Secret Key เพื่อเป็นการดึงข้อมูลเหรียญต่างๆของเราที่อยู่ใน Binance เข้ามาใน Blockfolio ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้เราสามารถนำมาได้จาก Account Binance ของเราได้เลยครับ

หลังจากล็อคอิน Binance เสร็จแล้ว มุมขวามือบนให้กดไปที่รูป Account ของเรา จากนั้นจะเจอคำว่า API Management ให้กดเข้าไปได้เลยครับ

กดเข้ามาแล้วจะเจอหน้า API Management ให้กดคำว่า Create API แล้วตั้งชื่อ Label เป็นคำว่า Blockfolio ได้เลยครับ จากนั้นก็จะมีให้ยืนยันการสร้าง API ทางโทรศัพท์และ E-mail ก็สามารถกรอกเลข 6 หลักตามขั้นตอนไปได้เลย 

หลังจากยืนยันเรียบร้อยแล้ว ทาง Binance ก็จะสร้าง API Key และ Secret Key ขึ้นมา โดยเราสามารถก็อปปี้เลขเหล่านี้ใส่ในแอพ Blockfolio ของเราได้เลย หรือจะเป็นการ Scan QR Code ก็ทำได้เช่นกัน หลังจากนั้นแล้วก็กด Add Connection 

โดยปกติตามระบบแล้ว จะต้องรอเวลาประมาณ 30-60 นาทีเพื่อรอให้ Blockfolio ดึง API กับ Binance เข้ามาไว้ในแพลตฟอร์ม ซึ่งสำหรับใครที่มีคริปโตอยู่ที่เว็บเทรดอื่นๆก็สามารถทำแบบเดียวกันได้เลย เพียงแค่หาฟีเจอร์สำหรับ API ในเว็บเทรดนั้นๆ และเชื่อมต่อกับทาง Blockfolio ได้เลยครับ

ซึ่งหากเชื่อมต่อเสร็จแล้ว ทาง Blockfolio จะโชว์มูลค่าเหรียญและประเภทเหรียญที่เราถือเลย แต่ว่าส่วนตัวผมกด Hide Balances เอาไว้ จึงจะไม่ขึ้นโชว์ในรูปครับ โดยเราสามาถเข้าไปเปิด/ปิดการโชว์มูลค่าพอร์ตของเราได้ โดยกดไปที่ Setting (มุมขวาบน) -> กดเปิด/ปิด Hide Balances

นอกจากนี้เรายังสามารถกดตัวเลือกให้ Blockfolio ขึ้นโชว์สัดส่วน % เหรียญต่างๆที่เราถือได้อีกด้วย โดยกดไปที่ Setting (มุมขวาบน) -> App Setting -> Tracking Setting -> กดเปิด/ปิด Percent Holdings 

โดยสรุปแล้ว ข้อดีหลักของ Blockfolio คือเราสามารถเช็ค Portfolio ของเราได้จากทุก Exchange ให้เข้ามาโชว์ใน Blockfolio เพียงแอพพลิเคชั่นเดียว ซึ่งนอกจากจะโชว์กำไรขาดทุนของเราแล้ว ระบบก็ยังขึ้นโชว์สัดส่วน % เหรียญที่เราถือในแต่ละ Exchage และกราฟราคาของเหรียญนั้นๆแบบ Real Time ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าแพลตฟอร์มนี้ได้มอบ User Experience ที่ดีและสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องระมัดระวังการเปิดข้อมูล API Key ในที่สาธารณะด้วยนะครับ เนื่องจากหากมีคนพบเห็นแล้วสแกน QR Code ของเรา บุคคลนั้นๆสามารถเห็น Portfolio ของเราได้หมดได้เลยนั่นเอง

บทความที่คุณอาจสนใจ