Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com

February 13, 2025
บทความ
4
min read

GameFi คืออะไร เล่นเกมแล้วได้เงินจริงไหม? ยังไปรอดไหมในยุคนี้

GameFi คือ Game + Finance เป็นการผสมผสานระหว่างเกมและระบบการเงินแบบไร้ตัวกลาง (Decentralized Finance - DeFi) บนเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในในช่วงปี 2020-2021 โดยนำเสนอรูปแบบการเล่นเกมแบบ Play-to-Earn ที่ผู้เล่นสามารถสร้างรายได้จากการเล่นเกม ในช่วงที่กระแสของ GameFi พุ่งถึงขีดสุด มูลค่าของตลาดนี้พุ่งสูงไปถึง $36 Billion แต่หลังจากเวลาผ่านไป กระแสก็เริ่มดรอปลงจนหลายคนคิดว่า GameFi นั้นตายไปแล้ว งั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักและเข้าใจ GameFi กันให้มากขึ้นดีกว่า

  • การทำงานของ GameFi: เจาะลึกระบบเบื้องหลัง GameFi เข้าใจวิธีการทำงานของบล็อกเชน DeFi และ NFT ที่เกี่ยวข้องกับเกม
  • ระบบ Play-to-Earn: อธิบายโมเดล Play-to-Earn วิธีการสร้างรายได้จากเกม ประเภทของรางวัล และกลยุทธ์การเล่น
  • ข้อดีและข้อเสีย: ชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียของ GameFi ให้ข้อมูลรอบด้าน เพื่อประกอบการตัดสินใจ
  • ความเสี่ยงและความท้าทาย: เจาะลึกความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ GameFi กฎหมาย กลโกง และความผันผวนของตลาด
  • อนาคตของ GameFi: วิเคราะห์แนวโน้มและโอกาสของ GameFi ในอนาคต พร้อมทั้งให้คำแนะนำสำหรับผู้เล่น

1. หลักการทำงานของ GameFi

1.1 เทคโนโลยีบล็อกเชน

หัวใจสำคัญของ GameFi คือเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลแบบกระจายศูนย์ ที่คอยบันทึกธุรกรรมต่าง ๆ บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง คุณสมบัติเด่นของบล็อกเชน มีดังนี้

  • ความปลอดภัย: ข้อมูลบนบล็อกเชนยากต่อการปลอมแปลง ด้วยกลไกการเข้ารหัสและการกระจายข้อมูล
  • ความโปร่งใส: ธุรกรรมทั้งหมดบนบล็อกเชนสามารถตรวจสอบได้โดยทุกคน สร้างความโปร่งใสและตรวจสอบได้
  • ความไร้ตัวกลาง: ผู้เล่นเป็นเจ้าของไอเท็มในเกม โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์กลาง ลดความเสี่ยงจากการถูกควบคุมหรือปิดกั้น

1.2 DeFi

DeFi หรือ Decentralized Finance คือระบบการเงินแบบไร้ตัวกลาง นำเสนอบริการทางการเงินต่างๆ บนบล็อกเชน โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง เช่น ธนาคาร คุณสมบัติเด่นของ DeFi มีดังนี้

  • การเข้าถึง: ผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการ DeFi โดยไม่ต้องมีบัญชีธนาคาร
  • ความรวดเร็ว: ธุรกรรมบน DeFi รวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำ
  • ความยืดหยุ่น: DeFi นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลากหลาย ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้

1.3 NFT (Non-Fungible Token)

NFT เป็นโทเคนดิจิทัลที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนแทนกันได้ แต่ละ NFT มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใช้แทนสินทรัพย์เสมือนจริงหรือกายภาพ เช่น ไอเท็มในเกม ผลงานศิลปะ หรือที่ดินเสมือนจริง คุณสมบัติเด่นของ NFT มีดังนี้

  • การเป็นเจ้าของ: ผู้ใช้เป็นเจ้าของ NFT อย่างแท้จริง ซึ่งสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้
  • ความหายาก: NFT บางชิ้นมีความหายาก หลายครั้งจึงกลายเป็นของสะสมที่มีมูลค่าสูง
  • การใช้งาน: NFT สามารถนำไปใช้งานในเกม บนแพลตฟอร์ม DeFi หรือตลาด NFT ได้

2. ระบบ Play-to-Earn

Play-to-Earn แปลตรงตัวว่า "เล่นเพื่อรับ" หมายถึงรูปแบบเกมที่ผู้เล่นสามารถ สร้างรายได้จากการเล่นเกม โดยเกมเหล่านี้จะทำงานบนเทคโนโลยีบล็อกเชน ผสมผสานกับระบบ DeFi และ NFT

ลองนึกดูว่าคุณเล่นเกมสนุก ๆ ทั่วไป แต่แทนที่จะได้แค่ความเพลิดเพลิน คุณยังได้รับ รางวัล เป็น เงินจริง หรือ สินทรัพย์ดิจิทัล ที่สามารถนำไปขายต่อเป็นเงินจริงได้ นั่นคือสิ่งที่ Play-to-Earn ทำ

แล้วมันทำงานอย่างไร?

  1. เทคโนโลยีบล็อกเชน: เป็นระบบพื้นฐานที่ทำให้เกิดระบบนิเวศแบบไร้ตัวกลาง ผู้เล่นเป็นเจ้าของไอเท็มในเกม โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์กลาง ไอเท็มเหล่านี้จะอยู่ในรูปแบบของ NFT ที่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้บนตลาด
  2. ระบบ DeFi: นำระบบการเงินแบบไร้ตัวกลางมาผสมผสานกับเกม ผู้เล่นสามารถนำโทเคนที่ได้จากการเล่นเกมไป Staking เพื่อรับผลตอบแทน หรือใช้เป็นหลักประกันเพื่อกู้ยืมเงิน
  3. กลไก Play-to-Earn: ผู้เล่นสามารถรับรางวัลเป็น โทเคนดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี จากการทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในเกม 

3. ข้อดีของ Play-to-Earn

  • สร้างรายได้: ผู้เล่นสามารถสร้างรายได้จากการเล่นเกม โดยไม่ต้องลงทุนเงินจำนวนมาก
  • เป็นเจ้าของไอเท็ม: ผู้เล่นเป็นเจ้าของไอเท็มในเกม โดยไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์กลาง สามารถนำไปซื้อขายแลกเปลี่ยนได้
  • ควบคุมได้: ผู้เล่นมีสิทธิควบคุมบัญชีและไอเท็มของตัวเอง โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกเซิร์ฟเวอร์กลางควบคุม
  • ความโปร่งใส: ธุรกรรมทั้งหมดบนบล็อกเชนมีความโปร่งใส ผู้เล่นสามารถตรวจสอบได้

4. ข้อเสียของ Play-to-Earn

  • ความผันผวนของราคา: ราคาของโทเคนดิจิทัลและคริปโทเคอร์เรนซีมีความผันผวนสูง ผู้เล่นอาจสูญเสียเงินทุนหากลงทุนในช่วงเวลาที่ราคาไม่ดี
  • กลโกง: เกม Play-to-Earn บางเกมอาจเป็นกลโกง ผู้เล่นควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนลงทุน
  • กฎหมาย: กฎหมายเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซีและเกม Play-to-Earn ยังไม่ชัดเจนในบางประเทศ ผู้เล่นควรศึกษาข้อมูลกฎหมายก่อนเล่น

5. อนาคตของ Play-to-Earn (ตายหรือยัง?)

แม้ว่าช่วงที่ผ่านมากระแสเชิงลบต่อ GameFi จะมีเยอะ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า Play-to-Earn ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตอีกมากในอนาคต โดยเทคโนโลยีบล็อกเชน DeFi และ NFT กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เกม Play-to-Earn ใหม่ ๆ กำลังถูกพัฒนา และจำนวนผู้เล่นก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในปี 2024 ก็มีหลาย ๆ โปรเจกต์ GameFi ที่ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ตลาดขาขึ้นรอบที่แล้ว อย่าง Zentry ที่เพิ่งจะรีแบรนด์มาจาก GuildFi ก็เพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในเครือมากมาย ได้แก่

  1. Gamer. Gateway (RADIANT): ช่วยให้นักเล่นเกมสามารถเชื่อมต่อบัญชีเกมต่างๆ เข้าด้วยกัน และรับรางวัลจากการเล่นเกมบนแพลตฟอร์ม Zentry
  2. NFT. Collection (ZIGMA): เป็นตลาด NFT สำหรับไอเท็มในเกม ผลงานศิลปะ และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ
  3. Web3. Culture (NEXUS): สร้างพื้นที่สำหรับชุมชน web3 เพื่อพบปะ พูดคุย และแลกเปลี่ยนข้อมูล
  4. AI. Agent (Azul): ผู้ช่วยเสมือนอัจฉริยะ ช่วยให้นักเล่นเกมค้นหาข้อมูล วางกลยุทธ์ และเพิ่มประสิทธิภาพการเล่น

ทั้งนี้ ยังมีโปรเจกต์ด้าน GameFi อื่น ๆ ที่ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ Ronin, Axie Infinity, Pixels, Sandbox และอื่น ๆ

**อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด และลงทุนด้วยความระมัดระวัง เพราะ Play-to-Earn ยังมีความเสี่ยงอยู่ **

ความเสี่ยงหลักของ GameFi ที่ผู้เล่นมือใหม่ควรรู้!

1. ความผันผวนของราคา

โทเคนดิจิทัล คริปโทเคอร์เรนซี และ NFT ที่ใช้ในเกม GameFi ล้วนมีราคาที่ผันผวนสูง ขึ้นลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ผู้ลงทุนสูญเสียเงินทุน

2. กลโกง (Scam)

เกม GameFi บางเกมอาจเป็นกลโกง หลอกลวงผู้เล่น ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเกม และทีมพัฒนา

3. ความปลอดภัย

แพลตฟอร์มเกม ตลาด NFT และกระเป๋าเงินดิจิทัล ล้วนมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ ผู้ลงทุนควรเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ปลอดภัย เก็บรักษาข้อมูลลับให้มิดชิด

4. กฎหมาย

กฎหมายเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี NFT และ GameFi ยังไม่ชัดเจนในบางประเทศ อาจมีความเสี่ยงด้านกฎหมาย ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลกฎหมายในประเทศของตน

5. ความยั่งยืน

โมเดล Play-to-Earn ของ GameFi อาจไม่ยั่งยืนในระยะยาว หากจำนวนผู้เล่นลดลง มูลค่าของโทเคน คริปโตเคอร์เรนซี และ NFT อาจลดลง

สรุป

แม้ว่า GameFi จะดูเหมือนมีกระแสที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนที่สามารถพัฒนาให้ใช้ต่อได้อย่างหลากหลาย ตอนนี้เราอาจจะเห็นหลาย ๆ โปรเจกต์ด้านเกมหันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็น Long-term มากขึ้น อาจไม่ได้มีผลตอบแทนหรือหารายได้ได้อย่างหวือหวาเท่าเมื่อก่อน แต่หัวใจหลักของเกมคือความสนุก เพลิดเพลิน หากผู้เล่นสามารถเพลิดเพลินและสร้างรายได้ไปด้วยได้ เงินที่ได้มาก็ถือเป็นกำไรจากความสนุกอีกที

บทความที่คุณอาจสนใจ