Announcement เปลี่ยนจากตรงนี้

October 22, 2020
Featured|รีวิว

[รีวิว] Crypto Wallet คืออะไร กระเป๋าเงินดิจิทัล ที่ไม่สามารถถูกแบนจากรัฐบาลได้

สวัสดีครับทุกคนในขณะที่ปัจจุบันนั้นเกิดการเรียกร้องเสรีภาพและม็อปทั่วทุกหนทุกแห่งส่งผลให้รัฐบาลนั้นเริ่มเข้ามาจัดการแบนสิ่งต่างๆมีความเกี่ยวข้องไม่ว่าจะสื่อ จนล่าสุดเป็นช่องทางการสื่อสารอย่าง Application Telegram ทำให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลในการิดรอนสิทธิอย่างดี ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นแต่ทางทีมแอดมินคิดว่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้าคือความพยายามในการแบนช่องทางการเงินซึ่งอาจจะเป็นการแบนหรืออายัดบัญชีธนาคารของผู้ที่สนับสนุนม็อป ทำให้วันนี้ทางทีมงานอยากจะมาเล่า ถึงระบบการเงินในโลก Crypto ด้วยกระเป๋าเงินอย่าง Crypto Wallet ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้วที่รัฐบาลทั่วโลกพยายามทำลายมันลงไป

ทำความเข้าใจ Cryptocurrency และ Bitcoin

สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่า Cryptocurrency คืออะไรทางเราขอเกริ่นก่อนว่ามันคือสกุลเงินดิจิทัลที่มีพื้นฐานของเทคโนโลยี Blockchain ที่ทำงานเป็นอิสระจากตัวกลางจากหน่วยงานหรือรัฐบาลใดๆ  โดย Cryptocurrency ตัวเเรกที่เกิดขึ้นคือ Bitcoin ทำกำเนิดขึ้นด้วยเจตนารมของ Satoshi Nakamoto ที่ไม่พอใจในระบบการเงินของรัฐบาลที่เอื้อต่อผู้มีอำนาจและให้ประชาชนแบกรับภาระ ทำให้ Bitcoin นั้นเป็นสกุลเงินแรกบนโลกที่ไม่ว่ารัฐบาลใดๆบนโลกไม่สามารถปิดตัวมันลงได้เพราะมันทำงานอย่างอิสระอยู่บนคอมพิวเตอร์เกือบ 10,000 ตัวทั่วโลก

Private Key และ Public Key ส่วนสำคัญที่ทำให้เงินเป็นของเรา

ในระบบ Cryptocurrency นั้นจะมีองค์ประกอบอยู่สองอย่างนั่นคือ 

  • Private Key ซึ่งเปรียบเสมือนรหัสผ่านและกุญแจในการโอนเงิน
  • Address ซึ่งเปรียนเสมือนที่อยู่ในการโอนเงินหรือบัญชีธนาคาร

ส่วนสำคัญที่ทำให้ Cryptocurrency ไม่สามารถถูกแยนได้เพราะเนื้อแท้มันคือระบบบัญชีที่เป็น Database ธรรมดาที่บอกว่าแต่ละคนมีเงินอยู่เท่าไหร่เท่านั้นและฐานข้อมูลนี้มีสำเนาอยู่ทั่วโลก โดย Private Key นั้นเป็นรหัสยาวๆ 1 ชุดที่มีความเป็นไปได้อยู่ที่ 2^256 ซึ่งเป็นตัวเลขที่มหาศาลมากๆ และแทบไม่มีทางซ่ำกันได้ในทางปฎิบัติ

Private Key นี้เป็นเหมือกุญแจที่เราสามารถใช้ในการสั่งโอน Cryptocurrency ของเราไปให้ผู้อื่นได้ซึ่งหากคุณสร้าง Private Key อย่างถูกต้อง จะมีคุณคนเดียวบนโลกที่รู้ Private Key นั้นและเข้าถึงเงินในบัญชีนั้น ไม่ว่าจะเป็นตำรวจทหารหรือรัฐบาลต้องการเข้าถึงบัญชีนี้กระทั่งเอาปืนมาจ่อหัวคุณ หากคุณปฎิเสธที่จะเปิดเผย Private Key แก่เขา เขาก็ไม่สามารถทำอะไรกับเงินของคุณได้

Crypto Wallet กระเป๋าที่ช่วยในการใช้งาน Cryptocurrency

ปัจจุบันเราสามารถสร้าง Wallet และใช้งานผ่าน Wallet ที่มีอยู่มากมายหลายชนิดบนโลกได้ ซึ่งจริงๆแล้ว Wallet เหล่านี้นั้นเป็นเพียง Interface ที่ช่วยในการจัดการเงินของคุณเท่านั้น อำนาจในการเข้าถึงเงินจะอยู่ที่คนที่เข้าถึง Private Key 

นั้นหมายความว่าสมมติว่าหากคุณสร้าง Wallet และ Private Key จาก Wallet ยี่ห้อหนึ่งอย่าง Trust Wallet แล้วกระเป๋านั้นถูกแบน Ip เหมือนที่ Telegram สิ่งที่ถูกแบนไปก็คือ Interface เท่านั้นคุณก็ยังมี Private Key ที่ควบคุมเงินและคุณสามารถเอาไป Restore เงินของคุณใน Wallet อื่นๆได้อีกมากมายเช่น Electrum Copay ซึ่งมีมีมากมายจนเรียกได้ว่ารัฐบาลไม่มีทางแบนได้อย่างแน่นอน

อ่านวิธีการสร้าง Wallet บน Trust Wallet ได้ที่นี่

เราควรเลือกใช้ Cryptocurrency สกุลไหนดี

ปัจจุบันนั้นมี Cryptocurrency อยุ่มากมายแล้วคำถามคือเราจำใช้เงินสกุลไหนดีซึ่งเราขอแนะนำดังนี้

  • Bitcoin สกุลเงินที่มีมูลค่าการตลาดและได้รับความนิยมอันดับ 1 ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นตัวเก็บมูลค่า Store Of Value
  • Ethereum สกุลเงินดิจิทัลอันดับสองแต่มีคุณสมบัติที่เป็นเหมือนน้ำมันบนแพลทฟอร์มมากกว่าที่จะเป็นเงินหรือตัวเก็บมูลค่า
  • Monero/Zcoin สกุลเงินเหล่านี้ถูกเรียกว่า Privacy coin ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถปกปิดร่องรอยธุรกรรมได้แต่มีมูลค่าน้อยกว่าเหรียญด้านบน
  • USDT/USDC/DAI เหรียญเหล่านี้นั้นถูกเรียกว่า Stablecoin ซึ่งมันมีคุณสมบัติที่มีการรองรับมูลค่าให้มันมีมูลค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์ซึ่งทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องมูลค่าผันผวนเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ

การหาซื้อ Cryptocurrency

โดยปกติแล้วคุณสามารถซื้อขาย Cryptocurrency ได้ในตลากแลกเปลี่ยนที่รับใบอนุญาติอันได้แก่ Zipmex , SatangPro , Bitazza , Bitkub หลังจากนั้นให้โอนมาเก็บไว้ใน Wallet ของคุณ อย่างไรก็ตามการซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนเปล่านี้จะมีการเก็บข้อมูล แม้ว่าจะไม่ใช่หน่วยงานรัฐบาล หากใครต้องการที่จะปกปิดตัวตนคุณสามารถทำการซื้อขายแบบ OTC หรือผ่านคนที่คุณรู้จักได้โดยตรง

สรุป 

การใช้งาน Cryptocurrency และ CryptoWallet นั้นเป็นทางเลือกที่ดีหากคุณต้องการจะเป็นอิสระจากระบบและรัฐบาล อย่างไรก็ตามเมื่อมันเป็นระบบที่ไม่ขึ้นกับตัวกลางนั้นหมายความว่าอิสระภาพนั้นแลกมากับการที่คุณจะต้องรับผิดชอบในการใช้งานด้วยตนเอง หากคุณทำ Private Key หายโดยไม่มี Back Up เงินของคุณจะหายไปตลอดกาลเช่นกัน

บทความที่คุณอาจสนใจ