Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com

December 27, 2024
บทความ

Bitcoin Runes คืออะไร ทำไมถึงมีผลกระทบต่อ Bitcoin

 Bitcoin Runes คืออะไร ทำไมถึงมีผลกระทบต่อ bitcoin

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ระบบนิเวศของ Bitcoin ได้เติบโตและพัฒนาในการรวมโทเค็นทั้งแบบใช้ร่วมกันได้  (Fungible) และไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ (Non-Fungible Tokens หรือ NFT) ภายในเครือข่าย ซึ่งในบทความนี้ จะเป็นการอธิบายถึงโปรโตคอล Bitcoin Runes ตั้งแต่ วิธีการทำงาน , ความแตกต่างที่สำคัญจากโทเค็น BRC-20 , และประโยชน์ต่าง ๆ 

Bitcoin Runes คืออะไร ?

ทำความเข้าใจกันก่อน เนื่องด้วย Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลสกุลแรกมีข้อจำกัดด้านภาษาสคริปต์บน Bitcoin blockchain ทำให้การพัฒนา Smart contracts และ Fungible โทเค็นเป็นไปได้ยาก เป็นผลให้เครือข่ายบล็อกเชนทางเลือกอื่น ๆ ได้รับความนิยม เช่น Ethereum, Solana, Cardano, Polkadot และอื่นๆ ทำให้นักพัฒนามีโอกาสสร้างแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ (DApps) เพื่อดึงดูดผู้ใช้งาน

อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในปี 2023 จากการเปิดตัวโทเค็น BRC-20 และตามมาด้วยการเปิดตัว Bitcoin Runes ในเดือนเมษายน 2024 

Bitcoin Runes เปิดตัวบนบล็อก 840,000 หลังจากการ Halving โดย เคซีย์ โรดาร์มอร์ ผู้สร้างโปรโตคอล Ordinals เป็นผู้คิดค้น โดยเป็นโปรโตคอลที่ช่วยให้สามารถสร้างโทเค็นแบบใช้ร่วมกันได้ (Fungible) บนบล็อกเชน Bitcoin โดยมีความแตกต่างจากโทเค็น BRC-20 และ SRC-20 ที่ทำงานบนบล็อกเชนเครือข่าย Bitcoin เช่นเดียวกัน

Runes ไม่ได้อิงตามทฤษฎีของโปรโตคอล Ordinals และได้รับการออกแบบให้มีความเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ โดยใช้โมเดลบล็อกเชน Bitcoin เช่น โมเดล UTXO และ opcode OP_RETURN

นอกจากนี้มันยังไม่เหมือนกับโปรโตคอล Fungible โทเค็นอื่น ๆ ที่มีอยู่ใน Bitcoin ตรงที่ Runes จะไม่พึ่งพาข้อมูลนอกเครือข่าย (off-chain) เหมือนในกรณีของ RGB และ Tarot Assets และไม่ต้องใช้โทเค็นดั้งเดิมสำหรับการดำเนินการเช่น Omni Layer และ Counterparty 

ตามข้อมูลจาก OKX พบว่า การเปิดตัว Runes ยังส่งผลให้ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบน Bitcoin ทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดใหม่ในวันที่เปิดตัวในวันที่ 20 เมษายน โดยค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมโดยเฉลี่ยสูงถึงกว่า 127 ดอลลาร์ (4,666 บาท)

Bitcoin Runes ทำงานอย่างไร?

Runes ใช้คำสั่ง OP_RETURN และระบบ UTXO เพื่อลดความซับซ้อนในการสร้าง Fungible โทเค็นบนบล็อกเชน Bitcoin โดย Rune ได้รับการกำหนดให้กับ UTXO โดยใช้ Message โปรโตคอลที่มีรายละเอียดเฉพาะ เช่น Rune ID , ดัชนีเอาต์พุต , และจำนวน โดยทั้งหมดจะจัดเก็บไว้ในเอาต์พุต OP_RETURN

Runes ยังใช้ประโยชน์จากความสามารถโดยธรรมชาติของ Bitcoin สำหรับการจัดเก็บข้อมูลบนเครือข่าย โดยวิธีการนี้จะช่วยลดการเกิด UTXO “ขยะ” ที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจทำให้เครือข่ายแออัด จนส่งผลให้ธุรกรรมช้าลง หรือทำให้ผู้ใช้งานต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น 

นอกจากนี้ ยอดคงเหลือของ Rune จะถูก track ภายใน UTXO แทนที่จะต้องเชื่อมโยงกับที่อยู่กระเป๋าเงิน โดย Rune จะถูกโอนโดยใช้ธุรกรรม Bitcoin โดยมีเอาต์พุต OP_RETURN ที่ระบุรายละเอียดการโอนเอาไว้

Rune ยังสามารถ สลัก , Mint , และถ่ายโอนได้โดยใช้ Runestones ซึ่งเป็นข้อความที่จัดเก็บไว้ในเอาท์พุตธุรกรรมของ Bitcoin ซึ่งการสร้างจะเกี่ยวข้องกับการตั้งค่าคุณสมบัติต่าง ๆ  เช่น ชื่อและสัญลักษณ์ ส่วนการ Mint จะสร้างโทเค็นใหม่ตามคุณสมบัติที่สลักไว้  และในส่วนการโอน Rune จะมีรายละเอียดการโอน เช่น หมายเลขเอาต์พุต , Rune ID  และจำนวน

Runes กับ BRC-20 แตกต่างกันอย่างไร

Runes นั้นใช้ประโยชน์จากกลไก UTXO พื้นฐานของ Bitcoin เพื่อส่งเสริมการสร้างโทเค็น ในทางกลับกัน BRC-20 อาศัยทฤษฎีของ Ordinal โดยที่ข้อมูลจะถูกแนบโดยตรงกับ satoshi แต่ละตัว ซึ่งเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่า และอาจทำให้เกิดความแออัดของเครือข่ายได้

Runes

BRC-20

การออกแบบ

ใช้ UTXO

อาศัยทฤษฎี Ordinal

ประสิทธิภาพ

ความแออักของเครือข่ายลดลง

มีแนวโน้มทำให้เกิดความแออัด

ความง่ายในการพัฒนา

เรียบง่าย

ยาก

การจัดการโทเค็น

ทำได้ดี

ทำได้ยากกว่า

ประโยชน์ของ Bitcoin Runes

  • ประสิทธิภาพ : มอบวิธีการจัดการโทเค็นบนเครือข่าย Bitcoin ที่มีประสิทธิภาพ ผ่านการใช้โมเดล OP_RETURN ช่วยลดโอกาสเกิดการอุดตันของเครือข่าย (OP_RETURN ใช้ข้อมูลสูงสุดเพียง 80 ไบต์ ต่างจาก BRC-20 inscriptions ที่ใช้สูงสุด 4MB)
  • ความเรียบง่าย : ช่วยให้สามารถสร้างและจัดการ fungible โทเค็นบนเครือข่ายได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้ข้อมูลนอกเครือข่าย ช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการโทเค็น และเข้าถึงผู้ใช้ได้มากขึ้น
  • การขยายฐานผู้ใช้ : ก่อนหน้านี้ Ordinals และ BRC-20 ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างเหรียญมีม แต่ Bitcoin Runes ช่วยจุดประกายความสนใจในหมู่ชุมชนสกุลเงินดิจิทัลและผู้ที่ชื่นชอบเหรียญมีม ซึ่งกรณีการใช้งานใหม่ ๆ สำหรับ Bitcoin อาจช่วยดึงดูดผู้ใช้ได้มากขึ้นในอนาคต

อนาคตของ Bitcoin Runes จะเป็นอย่างไร?

ระบบนิเวศของเครือข่าย Bitcoin ดูจะมีแนวโน้มที่ดี  โดยได้รับแรงหนุนจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่โดดเด่น เช่น Taproot ซึ่งนำมาใช้ในปี 2021 และช่วยเพิ่มความสามารถในการขยายขนาดและความเป็นส่วนตัวของ Bitcoin ทำให้สร้างเงื่อนไขในการทำธุรกรรมที่ซับซ้อนได้มากขึ้น  

SegWit ก็เป็นอีกหนึ่งการอัพเกรดที่สำคัญที่ช่วยให้เครือข่าย Bitcoin เพิ่มความจุในการทำธุรกรรมและช่วยลดค่าธรรมเนียมโดยการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่บล็อค และการเปิดตัว Ordinals ก็ได้สร้างโอกาสใหม่ ๆ ที่คล้ายกับ NFT บนเครือข่าย โดยการจารึกสิ่งประดิษฐ์ดิจิทัลลงบน Bitcoin โดยตรง

และด้วยแนวคิดใหม่ ๆ เช่น Bitcoin Runes ที่เป็นการแนะนำการสร้าง fungible โทเค็นบนบล็อกเชน Bitcoin แต่อย่างไรก็ตาม Runes ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา และยังได้รับเสียงตอบรับที่หลากหลายจากชุมชน Bitcoin บ้างก็ยกย่องว่ามันมีศักยภาพในการขยายการใช้งานของ Bitcoin บ้างก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับความซับซ้อนของรูปแบบธุรกรรมที่เคยเรียบง่ายของ Bitcoin ดังนั้นมันจึงยังต้องการการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อจัดการกับข้อกังวลเหล่านี้ โดยการปรับปรุงความเสถียรของโปรโตคอลและคุณสมบัติด้านความปลอดภัย 

แต่ด้วยข้อดีของมันที่ทำให้ Bitcoin สามารถแข่งขันกับเครือข่ายบล็อกเชนอื่น ๆ ได้มากขึ้น และยังเพิ่มการรองรับเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อนและแอปพลิเคชันแบบกระจายอำนาจ สิ่งเหล่านี้จะดึงดูดนักพัฒนาและผู้ใช้ใหม่ ๆ ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากความปลอดภัยและสภาพคล่องที่แข็งแกร่งของ Bitcoin ได้มากขึ้น

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องคอยติดตามข่าวสารล่าสุดอยู่เสมอก่อนตัดสินใจลงทุน

บทความที่คุณอาจสนใจ