Announcement เปลี่ยนจากตรงนี้
เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีโดยรวมได้ร่วงลงอย่างหนัก จนทำให้บริษัท สถาบันการเงิน หรือ กองทุนต่างๆ ที่ได้ลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก จนบางแห่งถึงกับต้องประกาศล้มละลายไป เช่น ในกรณีของ กองทุน 3Arrow Captial (3AC) หรือ แพลตฟอร์ม CeFi ชื่อดังอย่าง Celcius และ Exchange หลายๆ แห่งทั่วโลกที่ต่างประสบปัญหาสภาพคล่อง ลูกค้าไม่สามารถถอนเงินได้
ดังนั้นพอมีข่าวลักษณะนี้ออกมาเยอะๆ ก็ทำให้หลายคนได้มาเพ่งเล็งมาที่ประเทศ El Salvador ซึ่งเป็นประเทศแรกในโลกที่ออกมาประกาศให้การสนับสนุน และ ลงทุนใน Bitcoin ซึ่ง El Salvador ได้ถูกมองว่าเสี่ยงเป็นประเทศล้มละลายเนื่องจากภาระหนี้สิน และยังขาดทุนจากการลงทุนใน Bitcoin ไปกว่า 60%
แต่หากเรามาดูในรายละเอียดจริงๆแล้ว ปัจจุบันประเทศ El Salvador มีหนี้สินอยู่กว่า 23,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นประมาณ 80% ของ GDP และในปีหน้าประเทศ El Salvador ยังต้องจ่ายหนี้คืนให้กับ IMF กว่า 800 ล้านดอลลาร์ และ IMF ยังคาดการณ์ว่า หนี้สาธารณะของเอลซัลวาดอร์ อาจสูงถึง 95% ของ GDP ภายในอีกปี 4 ทำให้หลายๆคนกังวลว่าประเทศ El Salvador อาจเสี่ยงจะเป็นประเทศล้มละลายได้
แต่หากเรามามองในส่วนของหนี้สินที่เกิดขึ้นจากการขาดทุนในการถือครอง Bitcoin จะพบว่า El Salvador ถือครอง Bitcoin เป็นจำนวนทั้งสิ้น 2301 BTC ซึ่งได้ทำการกทยอยซื้อตั้งแต่ BTC ราคา 51,760 ดอลลาร์ ลงมาเรื่อยๆจนในปัจจุบัน El Salvador มีต้นทุนในการถือครองอยู่ที่ 45,300 ดอลลาร์ต่อ Bitcoin ถ้าเทียบกับราคา BTC ปัจจุบันที่ประมาณ 19,000 ดอลลาร์แล้ว El Salvador จะขาดทุนประมาณ 60% หรือคิดเป็นเงิน 52 ล้านดอลลาร์
ซึ่งถ้าเปรียบเทียบหนี้สินทั้งหมดของ El Salvador กว่า 23,000 ล้านดอลลาร์ กับ 52 ล้านดอลลาร์จากการขาดทุน Bitcoin จะพบว่าการขาดทุนจาก Bitcoin คิดเป็นเพียง 0.22% เท่านั้นเอง ดังนั้นเราจึงสรุปได้ว่า การขาดทุนใน Bitcoin ของประเทศ El Salvador ไม่ได้ส่งผลถึงการล้มละลายของประเทศ
ในทางกลับกันการนำ BTC เข้ามาใช้ของประเทศ El Salvador นั้นสามารถตอบโจทย์ได้ในหลายๆเรื่อง เช่น El Salvador ถือเป็นประเทศเล็กๆที่มีประชากรอยู่เพียง 6 ล้านคน และกว่า 70% ของประชากรก็ไม่สามารถเข้าถึงระบบการเงินของธนาคารได้ และมีประชากรส่วนหนึ่งที่ต้องไปทำงานต่างประเทศและส่งเงินกลับมาที่ประเทศ El Salvador ถ้าเป็นระบบการเงินแบบเก่า การจะส่งเงินจากต่างประเทศกลับมาได้นั้นต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่พอ El Salvador มาใช้ BTC นั้น การทำธุรกรรมก็สามารถทำได้รวดเร็วและสะดวกมากขึ้น ถือเป็นตัวอย่างการสร้าง Adoption ให้กับ BTC ได้ดีเลยทีเดียว
นอกจากนี้การนำ BTC เข้ามาใช้ ยังช่วยในเรื่องของชื่อเสียงของประเทศ ทำให้คนในโลกหันมาสนใจและพูดถึงประเทศ El Salvador มากขึ้นช่วยกระคุ้นในภาคการท่องเที่ยว ทำให้ในปีที่ผ่านมา El Salvador เป็นสถานที่จัดงานสัมนาเกี่ยวกับ Crypto Currency อยู่บ่อยครั้ง และล่าสุด GDP ของประเทศ El Salvador ก็เติบโตขึ้นสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ประมาณ 16% เทียบกับปีที่แล้ว
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการขาดทุนใน BTC ไม่ได้เกี่ยวกับที่ประเทศเสี่ยงล้มละลาย เนื่องจากถือเป็นสัดส่วนเงินส่วนที่น้อยมากๆหากเทียบกับปริมาณหนี้สินของประเทศทั้งหมด แต่การลงทุนใน Bitcoin และสร้างระบบพื้นฐานที่ใช้เทคโนโลยีของ Bitcoin มาเป็นเบื้องหลังครั้งนี้ กลับเป็นจุดที่สามารถเรียกความสนใจจากหลายๆคนทั่วโลกได้ และหากการลงทุนในระบบการเงินที่ใช้ Bitcoin ของประเทศ El Salvador นั้นได้ผล เราอาจได้เห็นอีกหลายๆประเทศที่จะหันมาใช้ Bitcoin ในอนาคตแน่นอน
เขียนบทความโดย อฤศวรรฒน์ นิลพานิช - Researcher at Cryptomind
เรียบเรียงโดย ทีมงาน Bitcoin Addict Thailand