Announcement เปลี่ยนจากตรงนี้
หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ Arc8 หรือ GAMEE พร้อมๆ กับเกม Crazy Defense Heroes, Pegaxy และ Aavegotchi ในช่วงต้นปี 2022 ที่กระแส Play to Earn ยังไม่ซบเซาเท่าช่วงนี้ แต่การที่รู้จักชื่อ Arc8 แต่ไม่ได้เข้ามาลองเล่นก็อาจจะไม่รู้จัก G-Bots ที่เป็นส่วนสำคัญอีกส่วนของ Arc8/GAMEE Ecosystem เพราะงั้นก่อนที่จะพูดถึงการอัพเกรดครั้งสำคัญในครั้งนี้ของ G-Bots จะขอพาไปทำความรู้จัก G-Bots รวมถึง Arc8 และ GAMEE คร่าวๆ ว่าคืออะไร
Arc8 เป็น Mobile Gaming Platform บน Polygon Network ที่ถูกพัฒนาโดย GAMEE ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งภายใต้ Animoca Brands ที่เป็นผู้พัฒนาโปรเจกต์ Web3 Metaverse ชื่อดังอย่าง The Sandbox ที่หลายคนรู้จัก
GAMEE ได้พัฒนาให้ Arc8 กลายเป็นศูนย์รวมเกม Arcade ที่มีการเอาโทเคนและ NFT มาเป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม โดยโทเคนและ NFT ดังกล่าวก็คือ GMEE Token และ G-Bots ตามลำดับนั่นเอง
ในตอนนี้แพลตฟอร์ม Arc8 มีเกมอยู่ทั้งหมด 15 เกม ที่ประกอบด้วยเกมที่ทำร่วมกับ Partner ดังๆ อย่าง Cool Cats/Cool Pets, Manchester City FC และ ATARI ส่วนที่เหลือก็เป็นเกม Arcade จากทางทีม GAMEE โดยมี 2 เกมจากจำนวนดังกล่าวเป็นเกมพิเศษเฉพาะกับผู้ถือ G-Bots เท่านั้น
เกมต่างๆ ใน Arc8 จะเป็นเกมมือถือที่เล่นง่าย เข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย สามารถเล่นได้ทั้ง iOS และ Android
ส่วน G-Bots เป็น NFT ที่อยู่บน Polygon จำนวนทั้งหมด 5,000 ตัว ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมประสบการณ์ Play and Earn ให้กับผู้เล่นผ่านโทเคนหรือ NFT ซึ่งโดยปกติผู้เล่นก็สามารถเล่นเกมและได้รับ GMEE Token อยู่แล้วแต่การมี G-Bots จะทำให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงเกมที่มีรางวัลเยอะกว่าเกมปกติได้
โดย G-Bots จะประกอบด้วย 3 Classes ได้แก่ Fighter, Rogue และ Warrior ซึ่งแต่ละ Class จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปและ Stats ก็จะขึ้นอยู่กับตามระดับความหายาก (Rarity) อีกด้วย โดยเริ่มตั้งแต่ Common, Rare, Epic, Legendary, Mythical และ Ultimate ตามลำดับ
จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างของ G-Bots ก็คือเป็น NFT ที่สามารถใช้งานได้มากกว่า 1 เกม ซึ่งในตอนนี้ก็สามารถใช้เล่นได้ 2 เกม คือ Energy Wars และ Dark Lords รวมถึงสามารถใช้เข้า Tournament สำหรับ G-Bots ที่มี Prize Pool สูง, กิจกรรม Staking รับ GMEE Token เป็นต้น และในอนาคตทาง GAMEE ยังมีแผนที่จะทำ G-Hubs ที่เป็นโปรเจกต์ Metaverse สำหรับ G-Bots ในเร็วๆ นี้เพิ่มเติมด้วย แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ G-Bots ถูกขายไปหมดแล้วตั้งแต่ต้นปี 2022 ทำให้ในตอนนี้สามารถซื้อ G-Bots ได้ที่ Opensea เท่านั้น
และในวันที่ 5 ตุลาคม 2022 ที่ผ่านมา ทาง GAMEE ได้ทำการอัพเกรดครั้งสำคัญที่จะทำให้ G-Bots มีความน่าสนใจมากขึ้นกว่าเดิมมาก ซึ่งก็คือการ Breeding, Upgrade และ Evolve ของ G-Bots ที่จะทำให้ G-Bots มีลูกเล่นเยอะขึ้น ที่จะสามารถทำให้ G-Bots ที่มีอยู่เก่งขึ้นได้และมีโอกาสเลื่อนขั้น Rarity ได้ ซึ่งหาก Breed ได้ตัวที่หายากและอัพเกรดจนเก่งก็สามารถนำไปเล่น Tournament พิเศษที่มีรางวัลมหาศาลรออยู่หรือนำไปขายใน Opensea ให้กับคนที่ต้องการได้
และนอกจากนั้นก็มีการอัพเกรดรายละเอียดส่วนอื่นๆ ด้วยเช่นการแบ่ง Tournament ตามความหายากของ G-Bots โดย Tournament ของ G-Bots ที่มี Rarity สูงๆ ก็จะมีรางวัลสูงขึ้นเป็นต้น โดยในส่วนต่อไปจะพาไปเจาะลึกกันว่า Breeding, Evolve and Upgrade มีความน่าสนใจยังไงบ้าง
Breeding คือการนำ G-Bots ที่มีอยู่มาผสมกันเพื่อให้กำเนิด Baby Bot ขึ้นมากลายเป็นเหมือนอีกหนึ่ง Generation ของ G-Bots โดย Baby Bot นั้นสามารถพัฒนาร่างกลายเป็น G-Bots ร่างเต็มวัยได้ซึ่งก็คือการ Upgrade และ Evolve ที่เดี๋ยวจะพูดถึงในหัวข้อถัดไป
การ Breeding สามารถใช้ G-Bots ได้ตั้งแต่ 2-5 ตัวในการ Breed แต่ละครั้ง โดย G-Bots แต่ละตัวแต่ละ Rarity จะมีจำนวน Energy Core ที่แตกต่างกันโดยจะมีได้มากสุด 5 Energy Core ซึ่ง Energy Core นี้ก็เป็นตัวบอกจำนวนครั้งที่ G-Bots จะใช้ในการ Breed ได้
การ Breeding จะต้องใช้ Energy Core จาก G-Bots ตัวละ 1 Energy Core โดย Baby Bot จะได้รับ Energy Core น้อยกว่าจำนวน Energy Core ที่ใช้ 1 Energy Core กล่าวคือหาก Breed โดยใช้ G-Bots 5 ตัว ก็จะเสียตัวละ 1 Energy Core และทำให้ Baby Bot ตัวใหม่มีทั้งหมด 4 Energy Core นั่นเอง
โดย Class ของ Baby Bot ก็จะขึ้นอยู่กับ G-Bots ที่นำมาใช้ตามสัดส่วนด้วย ซึ่งถ้าเป็นการผสม Rogue 3 ตัวกับ Fighter 1 ตัว Baby Bot ก็จะมีโอกาสเป็น Rogue 75% และ Fighter 25% ส่วน Rarity จะขึ้นอยู่กับ G-Bots ที่นำมาใช้และ COP (Current Overall Power) หรือ ค่าเฉลี่ยของทุกๆ Stats ซึ่งถ้าใช้ G-Bots หลายตัวก็มีโอกาสได้ Rarity ที่สูงขึ้นได้โดยระบบจะแสดงให้ดูก่อน Breed ว่าผลลัพธ์จะได้เป็น Rarity ไหนโดยไม่ต้องลุ้นว่าเกลือมั้ย
และแน่นอนว่า Breeding จะมีค่าใช้จ่ายด้วย โดยจะต้องจ่ายเป็น GMEE Token และ OMP Token ที่ได้จากการเล่นเกม ซึ่งจำนวนที่ต้องใช้ของแต่ละโทเคนก็จะไม่เท่ากัน
**Omega Particle (OMP) คือโทเคนใหม่ที่พึ่งมีมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่นี้ โดยจะได้รับจากการเล่น G-Bots Tournament เท่านั้น และจะมี Liquidity Pool คู่ GMEE/OMP สำหรับการแลกเปลี่ยนอยู่ที่ Quickswap**
อ่านเพิ่มเติมเรื่องสูตรคำนวณ GMEE และ OMP ที่ต้องใช้สำหรับการ Breeding ได้ที่ : https://wiki.gamee.com/whitepaper/g-bot-metaverse/decentralization/breeding
จากแต่ก่อนที่ G-Bots มีพลังแตกต่างกันตาม Class และ Rarity โดยเฉพาะ Rarity ที่จะส่งผลต่อ COP ของ G-Bots มากที่สุด แต่การมาของระบบ Upgrade จะสามารถทำให้ตัวละครที่ Rarity สามารถมี COP ได้ใกล้เคียงตัว Rarity สูงๆ มากขึ้นได้ และก็จะทำให้ G-Bots เก่งขึ้นโดยตรงซึ่งจะทำให้ชนะเกมได้ง่ายขึ้น
โดย G-Bots แต่ละ Rarity ก็จะมี Maximum COP ที่จะสามารถอัพเกรดได้ไม่เท่ากัน ซึ่งตัวที่มี Rarity สูงๆ ก็จะสามารถอัพเกรดได้เยอะกว่าแต่ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการอัพเกรดแต่ละครั้งมากกว่าเยอะมากๆ
ในการอัพเกรดแต่ละครั้งจะเป็นการอัพเกรด COP (Current Overall Power) จำนวน 1 COP และแต่ละครั้งที่อัพเกรดเราจะได้ Point สำหรับอัพเกรด Stats ย่อยจำนวน 9 Points โดยเริ่มต้นระบบจะเป็นการอัพเกรด Stats ย่อยๆ 9 Stats (strength, speed, battery, HP, attack, defense, critical, luck, special) แต่จริงๆ เราสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ แต่มีข้อแม้ว่าการอัพเกรดแต่ละครั้งจะสามารถลด Stat อื่นแล้วมาเพิ่ม Stat ใด Stat หนึ่งได้เพียง 3 Points เท่านั้น ทำให้แม้ว่าบางตัวจะมี Maximum COP ไม่ถึงเลเวล 99 แต่ Stat ย่อยสามารถอัพเกรดให้ถึงเลเวล 99 ก่อนได้
อย่างเช่นหากอัพเกรด COP 5 ครั้ง ระบบก็จะเพิ่มทุก Stat อย่างละ 5 Points แต่ถ้าเราอยากเพิ่ม Health เป็นพิเศษก็สามารถลดอันอื่นแล้วมาเพิ่มได้ และจะเห็นได้ว่าการอัพเกรด 5 COP ก็จะสามารถเพิ่ม Stat ใด Stat หนึ่งได้ครั้งละ 3 Points ทำให้การเพิ่ม Health สามารถเพิ่มได้สูงสุดที่ 15 Points
โดยค่าใช้จ่ายในการอัพเกรดก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่อัพเกรดและ Rarity ของ G-Bots ซึ่งก็ต้องจ่ายเป็น GMEE และ OMP เช่นกัน
อ่านเพิ่มเติมเรื่องสูตรคำนวณ GMEE และ OMP ที่ต้องใช้สำหรับการ Upgrade ได้ที่ : https://wiki.gamee.com/whitepaper/g-bot-metaverse/decentralization/upgrading-and-evolving
การ Evolve ก็คือการเปลี่ยน Baby Bot ที่ได้จากการ Breeding เป็น G-Bots โดย Baby Bot ที่จะสามารถ Evolve ได้ก็ต้องถูกอัพเกรดจนมี COP ถึง Evolution Point ก่อน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับ Rarity ของ Baby Bot ตามตารางด้านล่าง
ตารางแสดง Evolution Point ของแต่ละ Rarity
และการ Evolve แต่ละครั้งก็จะมีโอกาสได้เลื่อนขั้น Rarity ด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับ Baby Bot ว่าอยู่ใน Rarity ไหน โดยรายละเอียดจะเป็นไปตามตารางด้านล่าง
ตัวอย่างเช่น หาก Baby Bot เป็น Common ก็จะมีโอกาส Evolve เป็น G-Bot ที่ระดับ Common, Rare, Epic, Legendary, Mythical และ Ultimate อย่างละ 80.2%, 16%, 3%, 0.8%, 0% และ 0% ตามลำดับ
หรือถ้า Baby Bot เป็น Epic ก็จะมีโอกาส Evolve เป็น G-Bot ที่ระดับ Common, Rare, Epic, Legendary, Mythical และ Ultimate อย่างละ 0%, 0%, 80.2%,16%, 3%และ 0.8% ตามลำดับ
ตารางแสดงความน่าจะเป็นของ G-Bot rarity ที่จะได้รับหลังจาก Evolve จาก Baby Bot
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการ Evolve จะเป็นไปแบบตรงไปตรงมาแบบคงที่ดังตารางด้านล่าง เช่น ระดับ Legendary ก็จะต้องใช้ 2,500 GMEE และ 812.5 OMP พร้อมกับใช้เวลาอีก 24 ชั่วโมง
ตารางแสดงค่าใช้จ่ายและเวลาในการ Evolve ของแต่ละ Rarity
หมายเหตุ : GMEE และ OMP ที่ใช้สำหรับ Breeding, Upgrade, Evolve จะถูกเผาออกไปจากระบบ และในตอนนี้การ Breeding, Upgrade, Evolve สามารถทำได้แค่บน Arc8 Web App เท่านั้น
การมาของฟังก์ชัน Breeding, Upgrade และ Evolve นี้สามารถทำให้ G-Bots มีความน่าสนใจมากขึ้นเยอะ เพราะจากที่เมื่อก่อนคนที่มี G-Bots ระดับ Common ก็จะเสียเปรียบผู้เล่นที่มี G-Bots ระดับ Legendary อย่างมาก และด้วยความที่ G-Bots มีจำนวนจำกัดพร้อมกับตัวที่มีระดับสูงก็มีจำนวนน้อยด้วยทำให้จำนวน G-Bots ระดับสูงที่ขายใน Opensea ก็อาจมีไม่มากเพียงพอต่อความต้องการตัวระดับสูง
ฟังก์ชัน Breeding, Upgrade และ Evolve อันใหม่นี้จะทำให้คนที่มีตัวระดับปกติสามารถอัพเกรดให้มีพลังใกล้เคียง G-Bots ที่มี Rarity สูงได้ ซึ่งการอัพเกรดก็สามารถปรับแต่ง Stats ได้ตามต้องการว่าจะเน้น Stat ไหนเป็นพิเศษได้ หรืออยากจะนำ G-Bots ที่มีอยู่มา Breed เพื่อสร้าง G-Bots ที่มี Rarity สูงกว่าก็สามารถทำได้แล้ว