Announcement เปลี่ยนจากตรงนี้
บทความนี้เป็นการเขียนจากประสบการณ์ของผู้เขียน ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาและยอมรับความเสี่ยงด้วยตนเอง
Outline
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2023 มีข่าวประกาศว่าบริษัท Gulf Binance Co., Ltd. (Gulf Binance) หรือง่าย ๆ ก็คือ Binance Thailand ได้รับใบอนุญาติในการประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลจากกระทรวง การคลังผ่านทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว ซึ่ง Gulf Binance เป็นการร่วมทุนระหว่าง Binance และ Gulf innova Co., Ltd. (Gulf) ที่เป็นบริษัทย่อยของบริษัท GULF ที่ทำธุรกิจด้านพลังงานรายใหญ่ของประเทศ
ซึ่งคาดว่าจะให้บริการในช่วงไตรมาสที่ 4 ภายในปี 2023 และตลาด Exchange ในไทยก็ได้มีผู้เล่นรายใหญ่ที่น่ากลัวพอสมควรมาเป็นคู่แข่งอย่าง Binance แต่สิ่งที่ผู้คนกังวลกับข่าวนี้ เพราะเกร็งว่าหาก Binance Thailand เปิดให้บริการในไทย ผู้ใช้งานไทยอาจจะไม่สามารถเข้าถึง Binance Global ที่มีฟีเจอร์ P2P, Derivative Trading, Lauchpad, EARN และ Locked Staking
เพราะจากอดีตหาก Binance เข้าไปทำบริการในประเทศไหนอย่างเป็นทางการก็จะแบนผู้ใช้ประเทศนั้นๆในการเข้าถึง Binance Global อย่างเช่น US, EN และ SG
จากเหตุนี้เองคนส่วนใหญ่ที่ใช้งาน Features สำคัญๆบน Global ก็อาจจะต้องหา Global Exchange ตัวอื่นเป็นอีกทางเลือกซึ่งเราจึงแนะนำเป็น OKX Global Exchange เป็นอีกตัวเลือก ซึ่งเราจะพาไปดูกันว่า OKX มันดียังไง
OKX เป็น Global Exchange ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ปีเดียวกันกับการก่อตั้ง Binance นั่นเอง ซึ่งมี CEO คือนาย Star Xu นักธุรกิจชาวจีน ซึ่ง OKX ก็ถือว่าเป็น Exchange ระดับ OG ที่อยู่คู่วงการมานาน ผ่านเหตุการณ์ Blackswan ต่างๆมาได้จนถึงปัจจุบัน ต่อไปเราจะไปดูถึงสเกล Stats ของ Exchange กันเริ่มที่ Ranking ก่อนเลย
จากภาพเป็นข้อมูลการทำ Ranking ของ Coingecko โดย Ranking นี้คาดว่าใช้มาตรวัดจากการดู 24h Volume (โดยค่าเฉลี่ย) และ 24h Volume (แบบวันต่อวัน) และยอดเข้าใช้เว็บไซต์ ซึ่งจาก 5 อันดับแรกจะเห็นได้ว่า OKX ติดอันดับที่ 4 ซึ่งตัวเลขถือว่าดูดีเลยทีเดียวและมีความน่าเชื่อถือสูงพอสมควร
ต่อไปในส่วนของ Trading Volume เราจะแยกสองส่วนคือ Spot Volume และ Derivatives Volume เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งาน โดยจากภาพเป็นข้อมูลของทาง Coinmarketcap
Ranking ในแง่ของ Spot Volume นั้นอยู่ที่อันดับ 7 ซึ่งถือว่ายังอยู่ใน Top10 โดยมี Spot Volume (24h) อยู่ที่ราว $699M ต่อวันเลยทีเดียว
ต่อมาถ้าเรามาดูข้อมูล Ranking ในส่วนของ Derivatives Volume จะเห็นว่าอันดับจะดีดมาอยู่ที่ 2 ด้วย Volume เกือบ $10B ซึ่งสูงกว่า Spot Volume ราว 14.29 เท่าเลยทีเดียว ก็จะเห็นได้เลยว่าตลาด Derivatives บน OKX ก็มีความคึกคักสูงพอสมควร รองจาก Binance
ข้อมูลจาก DefiLlama และ Coinmarketcap
ในส่วนของ Reserves (เงินทุนสำรอง) ทาง OKX มียอดรวมทั้งหมดอยู่ที่ $10.26B ถือว่ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากเพียงแค่ Binance เท่านั้น เราจึงค่อนข้างมั่นใจในความแข็งแรงของทาง OKX ได้พอสมควร และที่สำคัญคือมี inflow ไหลเข้า Exchange เรื่อยๆ
ซึ่งถ้าเราลองย่อย Breakdown ออกมาว่า Reserves นั้นมี Assets allocation ตัวไหนบ้างก็จะเห็นว่ากว่า 46.86% ถือ USDT (Stable Coin) รองลงมาคือ BTC ที่ 31.61% และ ETH 18.85% โดยทั้งสามตัวนี้ถือว่าเป็นตัวที่ความเสี่ยงต่ำในตลาดทั้งสิ้น หากรวมกันแล้วจะอยู่ที่ 97.32% เลยทีเดียวที่เป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยและความเสี่ยงต่ำอย่าง BTC, ETH และ USDT
OKX นั้นมีเครื่องมือที่หลากหลายมากในการเทรด มีคู่เทรดเหรียญที่เยอะมาก ซึ่งตอบโจทย์ในการเทรดทั้ง Spot และ Derivatives มีสภาพคล่องสูง และที่สำคัญคือคิดค่าธรรมเนียมที่ถูกกว่าหลายๆที่ ทำให้เรามีกำไรที่เยอะขึ้นจากการซื้อขายคริปโทฯบน OKX
การฝากปัจจุบันเราสามารถฝากผ่านวิธีดังนี้
1.สามารถฝาก Crypto ผ่าน Networks หลักๆดังนี้คือ Ethereum, OKT Chain, Tron, Polygon, Avalance, Arbitrum One และ Optimism
2.การฝากแบบ P2P ซึ่งหลายๆคนคงจะชอบฟีเจอร์นี้มาก เพราะทั้งสะดวกง่ายและเร็วโดยเราสามารถทำการฝากเงินบาทเพื่อซื้อเหรียญแบบ P2P ผ่านช่องทางการเงินต่างๆได้เลย และที่สำคัญสามารถเลือกร้านแลกตามเรทที่เราพอใจได้เลย
3.การฝากผ่านบัตรเครดิจและเดบิต แต่ฟีเจอร์นี้อาจจะยังไม่รองรับสำหรับบัตรที่ออกโดย ธนาคารในประเทศไทย
ในส่วนของการถอนก็มีหลายวิธีเช่นกันเช่นการ
1.ถอนเป็น Crypto ผ่าน Networks ต่าง ๆ ที่กล่าวไปข้างต้น
2.ถอนผ่าน P2P โดยการขายเหรียญ Crypto เป็นเงินบาทง่าย ๆ
ปัจจุบันมีเหรียญที่ Listed อยู่บน OKX กว่า 346 เหรียญ มีคู่เทรด Spot กว่า 573 คู่เทรด และมี Derivatives กว่า 311 คู่ ซึ่งผู้ใช้งานมีตัวเลือกในการเทรดมากมายอย่างอิสระตามต้องการเลยทีเดียว
ปัจจุบัน OKX นั้นมีฟีเจอร์และเครื่องมือในการเทรดที่หลากหลายมาก ซึ่งตอบโจทย์แทบทุกไลฟ์สไตล์การเทรดเลยทีเดียว แต่ละคนสามารถประยุกต์ใช้ตามที่ตรงจริตได้เลย
โดยฟีเจอร์หลัก ๆ ในการซื้อขานบน OKX นั้นมีหลายประเภทเช่น
1.การ Convert เป็นการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่เหมาะกับมือใหม่ โดยซื้อขายได้ง่าย เร็ว ไม่มีค่าธรรมเนียมม และราคาแม่นยำ
2.Basic Trading เป็นเครื่องมือการเทรดที่ Basic ที่สุดในการเทรดซื่งจะสามารถตั้ง Buy Market และ Limit ได้ โดยสามารถเทรดได้ทั้งแบบ Spot และ Simple Options
3.Derivatives & Margin Trading เป็นการเทรดอนุพันธ์และการกู้เทรดแบบLeverage โดยสามารถเทรดได้ทั้งแบบ Perputual Swap, Futures, Margin, และ Options เหมาะกับสาย Hedging และคนที่ต้องการความเสี่ยงสูง *ที่สำคัญคือ OKX สามารถเพิ่ม Leverage ได้สูงกว่า Binance ได้ทุกคู่เทรด
4.Trading Bots เป็นการนำ Bot มาเทรดให้ตามระบบต่างๆที่ตั้งค่าไว้แล้ว ซึ่งตอบโจทย์มากสำหรับคนที่ยุ่งไม่มีเวลาดูกราฟ ก็สามารถตั้งระบบและปล่อยให้ Bot เทรดเอง ที่สำคัญเรายังสามารถเข้า Marketplace เพื่อ Copy Bot คนอื่นที่เราสนใจได้
5.Copy Trade เป็นการที่เราไป Copy นักเทรดที่เราสนใจ เพื่อให้ Account เราออกออเดอร์ตามนักเทรดคนนั้นได้เลย โดยที่เราไม่ต้องมาเฝ้าหรือทำอะไร
6.Liquid Marketplace เป็นตลาดที่ทำให้เราสามารถซื้อขายแบบ OTC ได้ เหมาะกับรายใหญ่ที่ต้องการซื้อเหรียญจำนวนมากๆ
7.Demo Trading เครื่องมือสุดท้ายนี้จะช่วยให้นักเทรดได้ฝึกเทรดโดยไร้ความเสี่ยงจากการขาดทุนจริง ทำให้เราสามารถทดลองระบบและฝึกฝนจนกว่าจะเทรดเก่งได้เลย
แน่นอนว่าหลายๆคนที่ถือเหรียญบางทีก็ไม่อยากถือเฉยๆ แต่อยากนำไปต่อยอดทำสิ่งต่างๆ เพื่อหาสภาพคล่องหรือค้ำเพื่อซื้อเหรียญอื่น ซึ่งบน OKX เองก็มีการระบบการ Earn เพื่อฝากเงินกินดอกเบี้ย เปรียบเสมือนการหว่านเมล็ดและรอผลดังชื่อว่า Grow ที่เป็นชื่อของระบบ Earn บน OKX
โดยในหมวดหมู่ Grow นั้นประกอบด้วย Earn, Loan และ Jump Start
1. Earn เป็นการนำเหรียญมาฝากเพื่อหาดอกเบี้ยเพิ่มเติม ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งฟีเจอร์ Simple Earn, On-chain Earn, และ Structured Products
2.Loan การกู้ยืมนั่นเองโดยเราสามารถใช้ฟีเจอร์กู้ยืมเพื่อหาดอกเบี้ย และนำเงินไปต่อยอดทำสิ่งต่างๆได้มากมาย
3.Jumpstart เป็นเหมือนการลงทุนรอบต้นน้ำ กับโปรเจคที่มีมากมายและมี Potential สูงทั่วโลก
OKX นั้นก็มีอายุที่ยาวนานคู่วงการมาตลอด ซึ่งปัจจุบันทาง Exchange ก็ได้รับ License ตามประเทศต่าง ๆ ที่สำคัญเช่น 1) Bahamas 2) Dubai 3) Hongkong, Malta 4) Singapore กำลังดำเนินการใกล้เสร็จ ซึ่งทาง OKX ไล่ขอ License ตามประเทศต่างๆเรื่อยๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและผู้ใช้งาน
และที่สำคัญคือทาง OKX ก็เร่ิมมีการสื่อสารแบรนด์ไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อสร้าง Awareness อย่างการเป็นสปอนเซอร์งานคอนเสิร์ตชื่อดังอย่างเช่น Rolling loud ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา
โดยสรุปแล้ว OKX ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจมากในการเทรดบน Global Exchange เพราะมี Reserves ที่โปร่งใสอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย มี Licenses จากหลากหลายประเทศ และตลาด Derivatives คึกคักมาก เหมาะกับคนที่ชอบเทรด Futures และมีฟีเจอร์ที่ครอบคลุมสำหรับผู้ใช้งานทุกรูปแบบ ค่าธรรมเนียมถูก และมี Customer Service 24/7
ติดตามข่าวสารจากทาง OKX ได้ที่
สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงโปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้