Announcement เปลี่ยนจากตรงนี้
สวัสดีครับคุณผู้อ่านวันนี้ทาง Bitcoin Addict จะมารีวิว Multiplier แพลทฟอร์มปล่อยกู้ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่กี่วันมานี้ โดยถ้าให้อธิบายสั้นๆมันก็มีความคล้ายคลึงกับ Compound Finance ที่ทางเราเคยรีวิวไปแล้ว แต่จุดที่ต่างกันคือปัจจุบันมันยังไม่ได้เป็น Defi ครับมันยังเป็นระบบ Centralized อยู่ พออ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณผู้อ่านอาจจะสงสัยว่ามันปลอดภัยหรือเปล่า ซึ่งขอบอกว่า Multiplier ได้มีการใช้ Coinbase Custody ซึ่งเป็น Cryptocurrency custody ที่ปลอดภัยลำดับต้นๆของโลก ซึ่งเรามาฟังรายละเอียดของแพลทฟอร์มนี้เลยดีกว่า
Multiplier นั้นเป็นแพลทฟอร์มในการกู้ยืม Cryptocurrency รูปแบบหนึ่งซึ่งผู้ที่ปล่อยกู้นั้นมีสิทธิที่จะได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยกู้และผู้กู้ก็สามารถกู้ยืม Cryptocurrency ได้เช่นกันโดยผู้ที่กู้นั้นก็สามารถนำ Cryptocurrency นั้นไปทำอะไรก็ได้ตามแต่ต้องการเพียงแต่ว่าในตอนที่นำเงินมาคืนผู้กู้จะต้องทำการชำระดอกเบี้ยซึ่งดอกเบี้ยในส่วนนี้คือรายได้ที่นำไปมอบให้ผู้ปล่อยกู้นั่นเอง
โดยในปัจจุบันนั้น Multiplier นั้นมี Cryptocurrency ให้เลือกใช้งานเพียงแค่ 3 ชนิดนั่นคือ Bitcoin USDC USDT ซึ่งส่วนที่น่าสนใจคือเมื่อเทียบกับ Compound แล้วดอกเบี้ยที่ได้จากการปล่อยกู้ของ USDC และ USDT นั้นจะสูงกว่าเล็กน้อย แต่ดอกเบี้ยในฝั่งกู้ของทั่งคู่ก็สูงกว่าเช่นกัน นอกจากนี้ Multiplier ยังมี Bitcoin ซึ่งในระบบ Compound ไม่มีในจุดนี้ เท่ากับว่าถ้าเราอยากมีเงินไปเทรดโดยไม่เสีย Bitcoin เราสามารถเอา Bitcoin มาค้ำแล้วเอา USDT ไปเทรดก็ได้
การกู้ยืมของ Multiplier นั้นมันไม่เหมือนกับการที่เรากู้ธนาคารเพื่อขอสินเชื่อ ในการที่เราจะกู้ผ่านระบบ Multiplier เราต้องมี Cryptocurrency ไปค้ำประกันเหมือน Compound และ Defi ตัวอื่นๆ ซึ่งเราจะสามารถกู้ยืมได้ในอัตราส่วนที่ไม่เท่ากันในแต่ละเหรียญ (Colletaral Factor) ดังนี้
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราฝาก Bitcoin ที่มีมูลค่า 100 USD เราจะสามารถกู้ Bitcoin USDT หรือ USDC ได้มูลค่า 65 USD
ในปัจจุบันนั้น แพลทฟอร์ม Mutiplier นั้นเป็นแพลทฟอร์มแบบ Centralzed Finance (โดยมีแผนจะเปลี่ยนเป็น Defi ใน Q4 2020) หรือถ้าให้พูดง่ายๆคือมันเป็นระบบที่มีตัวกลางในการเก็บเงินเราเหมือนธนาคาร ซึ่งแน่นอนว่าในแง่ความปลอดภัยไม่เท่า Defi แต่แอดมินก็พบว่ามันมีส่วนที่น่าสนใจอยู่พอสมควรเลย
แม้ว่ามันจะเป็นระบบ Centralized ก็ตามแต่ Multiplier ก็ได้ใช้บริการของ Cryptocurrency Custody ที่ดีที่สุดในปัจจุบันอย่าง Coinbase Custody ซึ่งเป็นบริการของ Exchange ที่ได้ License ที่มีชื่อเสียงที่สุดในอเมริกาอย่าง Coinbase ในการดูแลและจัดเก็บ Cryptocurrency แม้มันอาจจะขัดใจกับแนวทาง Decentralized แต่มันก็เป็นวิธีที่น่าเชื่อถือที่สุดเท่าที่มีในปัจจุบัน และด้วยการที่ Mutiplier นั้นใช้ Coinbase Custody ทำให้การถอนเงินต้องผ่าน Custody ซึ่งอาจจะใช้เวลา 1-3 วันในการทำการ
นอกจากนี้ Multiplier ยังได้รับใบอนุญาติธุรกิจปล่อยกู้ (Money Lenders License) จาก ฮ่องกงนอกจากนี้ยังมีการเปิด office ในการดำเนินการในปลายประเทศซึ่งรวมถึงประเทศไทยที่อยู่ที่ the nine พระราม 9 ซึ่งทางทีมงานของทาง Bitcoin addict ก็ได้ไปเยี่ยมเยือน office มาแล้วว่ามีตัวตนจริง
นี่คือส่วนที่น่าสนใจที่สุดสำหรับแพลทฟอร์ม Multiplier นั้นคือ Governance Token ซึ่งเราอย่าลืมว่าแพลทฟอร์มกู้ยืมอย่าง Compound ได้สร้างปรากฎการที่เหรียญพุ่งขึ้นไปถึง 340 USD มาแล้ว โดยใน Multiplier นั้นจะมีเหรียญที่ชื่อว่า MXX Token ซึ่งสามารถใช้ในการโหวตในการเปลี่ยนแปลงระบบได้ไม่ต่างจาก Compound
การที่เราจะได้รับเหรียญ MXX นั้นเหรียญจะแจกโดยคำนวนจากว่าเราปล่อยกู้และกู้มากเท่าไหร่และคิดเป็นสัดส่วนออกมาตามการใช้งานของเรา โดย MXX Token จะมีจำนวนอยู่ที่ 9 พันล้าน MXX โดยในทุกๆวันจะมี MXX สร้างออกมา 18 ล้านเหรียญ ซึ่งจะเกิดการ Halving ทุก 3 พันล้านเหรียญที่สร้างออกมา โดยปัจจุบัน MXX Token นั้นเปิดให้เทรดที่ Bilaxy
แต่ว่าเหรียญนั้นจะถูกแจกเป็นช่วงๆในทุกๆวันจันทร์เพื่อให้ผู้ใช้เข้าไปเคลมได้ เมื่อเราทำการเคลมเหรียญแล้วเหรียญจะถูกเก็บอยู่ใน Vault ก่อนแล้วโดยเหรียญที่เราสามารถถอนได้ จะค่อยๆทะยอยแจกภายใน 365 วัน
โดยจากการทดสอบของทีมงานที่ทำการฝากและกู้ในยอดรวมประมาณ 26000 USD ในวันที่ 1 สิงหาคม ทีมงานได้ยอดประมาณ 5500 MXX (ดูเหมือนว่าถ้ากู้จะได้ MXX มากกว่าฝากในปัจจุบันเพราะคนฝากเยอะ) โดยใน Bilaxy ตอนนี้ราคา MXX อยู่ที่ 0.05 USD เท่าประมาณ 275 USD แต่แน่อนว่าราคานั้นมีการผันผวนและการถอนนั้นเป็นการที่ค่อยๆทยอยถอน
Multiplier นั้นเป็นแพลทฟอร์มกู้ยืมแบบ Centralized ที่อนาคตจะเปลี่ยนเป็น Defi แต่อย่างไรก็ตามการที่มันเป็นระบบ Centralzied นั้นก็สร้างจุดเด่นที่น่าสนใจที่ไม่มีใน Defi ได้ จุดด้อยของมันคือการที่มันยังไม่ใช่ Defi ทำให้มันอาจจะไม่สามารถเกาะกระแส Defi ได้ในตอนนี้ แต่การใช้ Coinbase Custory นั้นก็นับเป็นทางแก้ที่น่าสนใจมาก ทำให้ต้องดูกันต่อไปว่า Multiplier จะเป็นอย่างไรต่อไป