Announcement เปลี่ยนจากตรงนี้
หนึ่งในช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการพัฒนาโปรเจกต์ต่างๆ ในโลกคริปโทฯ ก็หนีไม่พ้นช่วงตลาดหมีที่หลายๆ โปรเจกต์ได้ซุ่มพัฒนา Product ของตัวเองออกมาอย่างไม่หยุดหย่อนโดยเฉพาะ Sector ที่เป็น GameFi ซึ่ง “SmyleLand” ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยในบทความนี้จะพาไปทำความรู้จัก SmyleLand โปรเจกต์ GameFi ของคนไทยที่มุ่งหน้าเชื่อมโลกจริงกับ Metaverse
SmyleLand เป็นโปรเจกต์ GameFi ของคนไทยที่สามารถเล่นได้ทั้งบน Application และเว็บไซต์ โดยมีแนวคิดที่ต้องการสร้างแพลตฟอร์มที่สามารถนำรางวัลในเกม SmyleLand มาเปลี่ยนเป็นสิทธิพิเศษต่างๆ ในชีวิตจริงได้แบบ Play to Earn Privilege โดยสิทธิพิเศษต่างๆ นั้นก็มีตั้งแต่ ตั๋วชมภาพยนตร์ ตั๋วชมคอนเสิร์ต ห้องพักในโรงแรม สิทธิพิเศษที่จอดรถและส่วนลดจากร้านอาหารและร้านกาแฟ เป็นต้น
เกมส์ SmyleLand จะมีลักษณะเป็นแผนที่ประเทศไทยที่จะมีสถานที่ท่องเที่ยวเสมือนจริงอยู่ตามจุดต่างๆ ซึ่งหลักๆ จะเป็นการประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในไทยรวมถึงสถานที่ที่เป็น Partner ของ SmyleLand ด้วย โดยในระยะแรกจะเป็นแผนที่ของกรุงเทพมหานครก่อน
ซึ่งสถานที่ต่างๆ เหล่านี้จะเป็นจุดหมายปลายทางให้กับผู้เล่นโดยเมื่อผู้เล่นไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ แล้วเล่น Mini Game ก็จะได้รับรางวัลกลับมา ซึ่งการเดินทางนี้ก็จะต้องใช้พลังงานในการเดินทางที่ขึ้นอยู่กับระยะทางด้วย
ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเล่นได้แบบฟรีๆ โดยไม่ต้องลงทุนก่อนเลย แต่ถ้ามี NFT ของทางแพลตฟอร์มด้วยก็จะทำให้สามารถไปถึง Landmark เพื่อทำภารกิจหรือ Mini Game ได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังจะได้รับสิทธิพิเศษเพื่อไปใช้ในโลกจริงกันง่าย ๆ อีกด้วย
NFT ของ SmyleLand ที่พูดถึงนี้ก็คือ “Smyle Ride” ที่เป็นยานพาหนะที่มีไว้ใช้สําหรับเดินทางใน SmyleLand ที่จะช่วยทำให้ผู้เล่นสามารถเดินทางไปถึงจุดหมายได้รวดเร็วขึ้น
หากผู้เล่นไม่มี NFT ก็จะมีแค่ตัวละครที่เป็น Avatar ซึ่งแน่นอนว่าการเดินทางไปแต่ละจุดหมายจะทำได้ช้ากว่าการมีรถเพราะต้องเดินเท้านั่นเอง ทำให้ Smile Ride จะกลายมาเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับเกมนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
Smyle Ride 1st Collection จะมีการแบ่ง Rarity เป็น 6 ระดับ ได้แก่ Common, Rare, Super Rare, Epic, Legendary และ Ultra Exclusive
ไม่ว่าจะเป็น Swensen’s , Dairy Queen , Dakasi
โดยพาร์ทเนอร์ของ SmyleLand ก็เริ่มเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย เช่น Season of Love Song, The Coffee Club, KPN Academy, Swensen, Grab Food, Dakasi, Bonchon, สมาคมโรงแรมไทย, Dairy Queen, Burger King, การบินไทย, Bangkok Hospital , Bearhouse และอีกมากมาย ซึ่งแต่ละที่นั้นเรียกได้ว่าน่าสนใจมากทีเดียว
Smyle Ride จะมีการเปิดขายทั้งหมด 10,000 คัน โดย 1,000 คันแรกได้เปิดขายในรอบ Private Sale สำหรับผู้ได้ Whitelist ไปเมื่อ 19 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยผู้ที่ซื้อรอบ Private Sale จะได้รับ NFT Pet สุดพิเศษไปแบบฟรีๆ ที่สามารถนำมาใช้เสริมความสามารถในการเล่นเกมได้
และที่เหลืออีก 9,000 คันที่เปิดขายรอบ Public Sale ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 นี้ โดยหากอยากได้ NFT Pet จะต้องซื้อกล่องทั้งหมด 3 กล่อง (คละแบบได้) ถึงจะได้ NFT Pet เหมือนรอบ Private Sale และ NFT Pet หมดเขตวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565
ในรอบ Public Sale นี้จะมีกล่องให้เลือกเปิด 3 แบบคือ
เริ่ม Mint NFT Smyle Ride คอลเลคชันแรก รอบ Public ได้
⏰ ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน เวลา 9 โมงตรง เป็นต้นไป
📍 ที่เว็บไซต์ www.smyleland.com/en/mint
SmyleLand จะมีส่วนประกอบหลักๆ สำหรับผู้เล่นอยู่ 4 อย่างคือ Character, Vehicle, Pet และ Items โดย Character และ Vehicle จะเป็นส่วนคำคัญที่สุดสำหรับ SmyleLand ส่วน Pet และ Item จะเป็นส่วนเสริมที่ช่วยเพิ่ม Stat ให้กับ Character และ Vehicle ซึ่ง Stat แต่ละอย่างมีความหมายดังนี้
จากภาพด้านบนเป็นตัวอย่างค่าสถานะของแต่ละองค์ประกอบซึ่งจากที่กล่าวไปข้างต้นว่ารถหรือ Smyle Ride จะเข้ามาเป็นบทบาทสำคัญก็จะเห็นได้ชัดจากค่าสถานะนี้
ค่าสถานะหลักๆ ที่แตกต่างกันอย่างมากก็คือ Speed (SPD) และ Wallet ซึ่งหมายความว่าการทำภารกิจโดยไม่มีรถ จะได้รางวัลสูงสุดเพียง 3 เหรียญต่อวันและจะใช้เวลาในการเดินทางมากกว่า แต่ถ้าใช้รถควบคู่ไปด้วยจะเร็วกว่าเดินอย่างมากและจะเพิ่มรางวัลสูงสุดต่อวันอีก 15 เหรียญ ซึ่งรวมแล้วได้ 18 ต่อวัน
ส่วนเรื่องการเล่น ผู้ใช้งานเพียงแค่นำตัวละครและ/หรือรถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ บนแผนที่เพื่อรับภารกิจ ซึ่งผู้เล่นจำเป็นต้องใช้พลังงานในการเดินทาง โดยพลังงานนั้นจะมาจากทั้งตัว Avatar และพลังของ Smyle Ride รวมถึง NFT Pet ของผู้เล่นเอง โดยระยะเวลาในการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางจะแปรผันตามค่าพลังที่เรามี
เมื่อผู้เล่นกดเริ่มเดินทางแล้ว ตัวละครในเกมส์จะเดินทางโดยอัตโนมัติ และเมื่อเดินทางไปถึงจุดหมาย Landmark แต่ละที่จะมีภารกิจให้ทำในรูปแบบ Mini Game เช่น การเลือกการ์ด การหมุนวงล้อ การตอบคำถาม เป็นต้น
โดยหากผู้เล่นทำภารกิจสำเร็จแล้ว ก็จะได้รับรางวัลเป็น Voucher , Code ของแบรนด์นั้นๆ ไปใช้งานในโลกจริงได้เลย หรือได้รับเป็น Gold ที่สามารถสะสมเพื่อใช้งานภายในเกมส์ก็ได้ เช่นการนำ Gold ไปใช้ในการซ่อมรถหรือฟื้นพลังงานของตัวละคร
ซึ่งที่มีการฟื้นพลังงานก็เพราะมีสิ่งที่เรียกว่า Energy Consumption Rate (ECR) ที่ยิ่งเดินทางไกลก็จะต้องเสียพลังงานเยอะนั่นเอง โดยจะคำนวณเป็นต่อ 1,000 Distance Unit
ตัวละครมีค่า ECR อยู่ที่ 400 เท่ากับว่าจะต้องใช้ Energy Unit = 1000/400 = 2.5 Energy Unit ต่อ 1,000 Distance Unit
รถมีค่า ECR อยู่ที่ 300 เท่ากับว่าจะต้องใช้ Energy Unit = 1000/300 = 3.3 Energy Unit ต่อ 1,000 Distance Unit
แต่รถจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมเล็กน้อยซึ่งก็คือ Depreciation หรือการเสื่อมของรถ โดยการเสื่อมจะลด 10% ทุกๆ 400 ทริป หรือ 200,000 กิโลเมตร ซึ่งการซ่อมในแต่ละครั้งจะไม่สามารถซ่อมขึ้นมาเต็ม 100% ได้แต่จะลดลงเรื่อยๆ ครั้งละ 10% ต่อการซ่อมแต่ละครั้ง
หากเราใช้รถจนเหลือน้อยกว่า 90% เมื่อไหร่ การซ่อมครั้งแรกจะกลับขึ้นมาได้ที่ 90% เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าสามารถใช้ได้จนเหลือ 0% แล้วค่อยซ่อมก็ได้ แต่ก็มีอีกแง่นึงที่ว่าเมื่อความทนทานของรถลดลงเรื่อยๆ จะกินน้ำมันเพิ่มและได้รับรางวัลลดลงเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นก็ต้องคิดคำนวณดีๆ ว่าจะซ่อมตอนไหนถึงจะดีที่สุด
จากภาพด้านบนจะเป็นตัวอย่างการเล่นโดยเป็นการจำลองการเดินทางใกล้ๆ ที่ระยะทาง 500 Distance Unit
การเดินทาง 500 Distance Unit จะใช้ ERC 1.25 ต่อหนึ่งครั้ง (ครึ่งหนึ่งเพราะตัวเลขเป็นต่อ 1000 Distance Unit)
ซึ่งตัวละครนี้มี STR ที่ 10 ทำให้สามารถเดินทางได้เพียง 8 ทริปเท่านั้น และเหรียญที่ได้รับจะได้ 0.3 Token ต่อครั้ง ทำให้เหรียญที่ได้รับจะอยู่ที่ 2.4 Token แต่จำนวนสูงสุดที่สามารถรับได้ต่อวันคือ 3 Token
หากต้องการได้ครบ 3 Token ก็จำเป็นต้องเติมพลังงานโดยการดื่ม Energy Drink ที่มีราคาอยู่ที่ 0.15 Token/Energy Unit
ซึ่งนี่ก็เป็นเพียงตัวอย่างที่ไม่มี Smyle Ride ซึ่งถ้ามีก็จะทำให้การเดินทางเร็วกว่านี้มากๆ และจะได้เพิ่มจำนวนโทเคนสูงสุดที่สามารถรับได้ต่อวันด้วย
ส่วนระยะเวลาในการคืนทุนของ NFT ที่อ้างอิงจากราคา Public Sale นั้นจะเป็นไปดังนี้
ซึ่งที่ Bronze คืนทุนไวกว่าระดับสูงกว่าก็เพราะราคาถูกกว่าระดับ Silver และ Gold 5-7 เท่าตามลำดับและ Bronze มีโอกาสที่จะเปิดได้ Rarity ที่สูงเท่าๆ กับการเปิดกล่อง Silver และ Gold (แต่โอกาสน้อยกว่า) ทำให้ระยะเวลาคืนทุนมี Range กว้างดังรูปนั่นเอง
**ระยะเวลาการคืนทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามเทคนิคการเล่นและราคาเหรียญ**
ตอนนี้ตัวเหรียญ SML ยังไม่มีการเปิดตัวเพราะจะเปิดตัวในตอนที่เกมเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งสิ่งที่ทาง SmyleLand จะมอบให้ก็คือการ Airdrop เหรียญ SML ให้กับผู้ที่ถือ Smyle Ride
ยิ่ง Mint ไว ก็ยิ่งได้มีสิทธิ์ได้รับ Airdrop มากขึ้น โดยจำนวนเหรียญที่แจกจะเฉลี่ยอยู่ที่ 3 เหรียญต่อวัน ทำให้หาก Mint NFT ในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ก็จะเริ่มนับวันจนกว่าเกมจะเปิดอย่างเป็นทางการแล้วก็จะ Airdrop เหรียญให้ตามจำนวนวัน (คูณด้วย 3) เลย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรายละเอียดก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต และส่วนของ Tokenomics ของเหรียญ SML จะเป็นไปตามสัดส่วนดังรูปด้านล่างนี้
SmyleLand เป็น Game + Marketing Platform ที่ใช้เทคโนโลยี Web 3.0 สร้างโอกาสให้ Brand และ User เข้ามาเจอกันใน Metaverse เพื่อรับสิทธิประโยชน์มากมายในชีวิตจริงจากpartner ต่างๆ ของทางแพลตฟอร์ม โดยมีจุดเด่นที่เล่นได้ฟรี ไม่ได้บังคับการซื้อ NFT แต่การถือครอง NFT ก็มีประโยชน์หลายด้านเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามโทเคนที่ได้รับจากการเล่นสามารถนำมาใช้งานในเกมหรือขายเป็นสกุลอื่นๆ เพราะฉะนั้นก็ควรพิจารณาถึงความเสี่ยงตรงนี้ให้ถี่ถ้วนก่อน หรือหากใครมองว่าราคาที่จ่ายคุ้มกับสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ได้รับแล้ว ราคาเหรียญก็ไม่น่าใช่อะไรที่น่ากังวลสำหรับคนเหล่านั้น เพราะแค่กิจกรรมในเดือนพฤศจิกายนก็น่าสนใจสุดๆ แล้ว
สำหรับผู้ที่สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถอ่าน Whitepaper SmyleLand ได้ที่ คลิก
Website : www.smyleland.com
Facebook : https://www.facebook.com/SmyleLand
Discord : https://discord.com/invite/9sJX7xU2wZ
Telegram : https://t.me/smyleland
Twitter : https://twitter.com/SmyleLand
Instagram : https://www.instagram.com/smyleland/