Staking คืออะไร ระบบปันผล Passive Income ในโลกคริปโต

<!-- wp:heading {"level":3} -->

<h3><strong>Proof of stake หรือการ </strong>Staking <strong>คืออะไร </strong></h3>

<!-- /wp:heading -->

<!-- wp:image {"id":8599,"sizeSlug":"large"} -->

<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2020/01/1-31-2020-9-46-40-AM.png" alt="" class="wp-image-8599"/></figure>

<!-- /wp:image -->

<!-- wp:paragraph -->

<p>แนวคิดของ Proof of stake หรือที่เรียกกันง่ายๆว่าการ Staking เกิดขึ้นในปี 2011 ใน Bitcointalk โดยเงินดิจิทัลสกุลแรกที่นำวิธีนี้ไปใช้คือ Peercoin โดยแนวคิดของมันนั้นก็คล้ายกับ <a rel="noreferrer noopener" aria-label="Proof of work (opens in a new tab)" href="https://bitcoinaddict.org/2019/12/18/what-is-bitcoin-mining/" target="_blank">Proof of work</a> แต่แทนที่จะให้ผู้ที่ยืนยันธุรกรรมแข่งกันยืนยันธุรกรรมด้วยการถอดรหัสที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เราจะใช้<strong>การวางเงินค้ำประกัน</strong>แทน นั้นหมายความว่าถ้าเราอยากจะเป็นผู้ยืนยันในระบบเราจะต้องวางเงินค้ำประกันไว้ ถ้าระบบจับได้ว่าเราพยายามโกงหรือจู่โจมระบบ ระบบก็จะริบเงินประกันของเราคืน ซึ่งมันก็เหมือนที่เวลาเรานำรถหรือบ้านไปกู้ค้ำประกันแหละครับ หากเราไม่หนีหนี้และใช้หนี้ตามกำหนด รถกับบ้านของเราก็จะกลับคืนมาหาเราเมื่อเราใช้หนี้สำเร็จ แต่ถ้าเราหนีหนี้ละก็ บ้ายบาย รถและบ้านสุดที่รักไปได้เลย</p>

<!-- /wp:paragraph -->

<!-- wp:paragraph -->

<p>“Ethereum จะขุดไม่ได้อีกแล้วเพราะอีกไม่นานมันจะกลายเป็น Proof of stake” นี่เป็นประโยคที่ผมได้ยินบ่อยครั้งมากที่สุดเนื่องจากว่ามันเป็นสิ่งที่กระทบต่อสายขุดจำนวนมากที่บางส่วนกลัวว่าจะขุด Ethereum ไม่ได้ ข่าวดีก็คือตัวอัพเดทของ Proof of stake ใน Ethereum นั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีและดูเหมือนว่า Ethereum จะไม่ได้เปลี่ยนเป็น Proof of stake ไปซะทั้งหมดแต่จะเป็นการทำงานด้วยระบบ Proof of work และ Proof of stake ร่วมกันและนั่นเท่ากันว่านักขุดทั้งหลายก็ยังสามารถขุด Ethereum ได้นั้นเอง</p>

<!-- /wp:paragraph -->

<!-- wp:heading {"level":3} -->

<h3><strong>Consensus ของ Proof of work </strong>คืออะไร</h3>

<!-- /wp:heading -->

<!-- wp:image {"id":8598,"sizeSlug":"large"} -->

<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2020/01/1-31-2020-9-44-27-AM.png" alt="" class="wp-image-8598"/></figure>

<!-- /wp:image -->

<!-- wp:paragraph -->

<p>ก่อนที่เราจะไปเล่าถึงเรื่อง Proof of stake ความเดิมในบทความตอนที่แล้วเราเล่าถึงเรื่อง&nbsp;Consensus&nbsp;ว่ามันเป็นจิตวิทยาที่จะลงโทษผู้ก่อกวนระบบและให้รางวัลแก่คนทำดีโดยใน&nbsp;<a href="https://bitcoinaddict.org/2019/10/19/what-is-bitcoin/">Bitcoin</a>&nbsp;สิ่งที่คุณต้องจ่ายในการได้รับสิทธ์การแข่งขันยืนยันเป็นผู้ทำธุรกรรมคือค่าไฟจำนวนหนึ่ง หากคุณคิดจะโจมตีระบบคุณจะต้องเสียค่าไฟจำนวนนี้และหากคุณอาจจะต้องเสียค่าไฟจำนวนไม่น้อยซะด้วยถึงจะทำสำเร็จ เพราะปัจจุบันกำลังการขุดที่ปกป้องระบบของ&nbsp;Bitcoin&nbsp;นั้นใช้ค่าไฟฟ้าพอๆกับประเทศเล็กๆเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามก็มีข้อกังขาว่า แบบนี้เราจะต้องสิ้นเปลืองพลังงานมหาศาลในการรักษาความปลอดภัยหน่ะสิ จึงมีแนวคิดอีกแบบหนึ่งที่เรียกว่า Proof of stake ขึ้น</p>

<!-- /wp:paragraph -->

<!-- wp:heading {"level":3} -->

<h3><strong>ระบบที่ไม่ต้องขุด </strong></h3>

<!-- /wp:heading -->

<!-- wp:image {"id":8600,"sizeSlug":"large"} -->

<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2020/01/1-31-2020-9-47-46-AM.png" alt="" class="wp-image-8600"/></figure>

<!-- /wp:image -->

<!-- wp:paragraph -->

<p>ปกติแล้วการขุดนั้นหมายถึงการถอดรหัสแบบ&nbsp;<a href="https://bitcoinaddict.org/2019/12/18/what-is-bitcoin-mining/">Proof of work</a>&nbsp;แต่เมื่อเป็น Proof of stake ที่เอาเงินวางเท่ากับว่าเราจะไม่ต้องขุดหรือไม่ต้องถอดรหัสนั้นเอง แล้วมันมีผลยังไง คำตอบก็คือมันทำให้ธุรกรรมของ Blockchain เร็วขึ้นมากครับ ปกติแล้วในระบบ Proof of work ของใน Bitcoin หรือ&nbsp;Litecoin&nbsp;ระบบจำเป็นต้องมีเวลาช่วงหนึ่งที่ใช้ในการแข่งขันด้วยการขุดหรือการถอดรหัส ซึ่งเวลาตรงนี้ มันทำให้เสียเวลามากครับอย่างใน Bitcoin ก็ใช้เวลาถึง 10 นาทีต่อ Block เลยด้วย เมื่อระบบไม่ต้องขุดเพราะเราจะตรวจสอบจากยอดที่แต่ละคนวางเงินค้ำประกันไว้ ก็สามารถยืนยันธุรกรรมได้เลยมันจึงเร็วกว่ากันมาก</p>

<!-- /wp:paragraph -->

<!-- wp:heading {"level":3} -->

<h3><strong>แล้วทำไมทุกคนไม่ใช้ Proof of Stake </strong></h3>

<!-- /wp:heading -->

<!-- wp:paragraph -->

<p>การใช้ Proof of stake นั้นก็มีข้อดีข้อเสียที่เป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในวงการนี้ครับ ประการแรกคือระบบที่เป็น Proof of stake นั้นจะถูกมองว่ามูลค่าของเหรียญเกิดจาก Virtual ล้วนๆมันเป็นมูลค่าที่จับต้องไม่ได้ เพราะเหรียญก็เสกขึ้นมาในระบบแล้วก็เอาไปค้ำประกันระบบ ต่างจากระบบ Proof of work ที่การรักษาความปลอดภัยของระบบนั้นแลกมาด้วยค่าไฟจำนวนหนึ่ง ทำให้มันดูเหมือนว่ามีมูลค่าในโลกแห่งความเป็นจริง และหาก Cryptocurrency นั้นก็ไม่ได้สร้างยากอะไรการใช้ Proof of stake จึงดูยากที่จะดึงความน่าเชื่อถือแก่ระบบได้</p>

<!-- /wp:paragraph -->

<!-- wp:paragraph -->

<p>อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญที่ถกเถียงกันของ Proof of stake คือโอกาสที่ระบบจะถูกโจมตีที่เรียกว่า 51% Attack ได้หรือเปล่า หากในระบบ Proof of work นั้นหากเราจะโจมตีระบบให้สำเร็จเราจะต้องมีกำลังขุดอย่างน้อยครึ่งหนึ่งและนั้นเท่ากับว่าคุณต้องมีเครื่องขุดมหาศาลและรวยมากๆเสียด้วย ในทางกลับกัน Proof of stake ถูกมองว่ามันง่ายมากที่จะมีใครซักคนถือเหรียญเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีความเห็นที่บอกว่าหากกระจายเหรียญได้ดีมากพอก็โอกาสที่จะถูกโจมตีได้น้อยลงเช่นกัน</p>

<!-- /wp:paragraph -->

<!-- wp:heading {"level":3} -->

<h3><strong>การนำไปใช้</strong></h3>

<!-- /wp:heading -->

<!-- wp:image {"id":8601,"width":440,"height":452,"sizeSlug":"large"} -->

<figure class="wp-block-image size-large is-resized"><img src="https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2020/01/1-31-2020-9-50-08-AM.png" alt="" class="wp-image-8601" width="440" height="452"/></figure>

<!-- /wp:image -->

<!-- wp:paragraph -->

<p>ปกติในปัจจุบันการใช้ Proof of stake อย่างเดียวใน Public Blockchain นั้นจะไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นระบบ Hybridge เช่นระบบ Masternode อย่าง Zcoin&nbsp;Dash&nbsp;และ Ethereum ในอนาคต และก็ถูกออกแบบเพิ่มเติมในระบบอื่นๆเช่น Proof of Importance ใน Nem ก็ถือเป็น Proof of stake แต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติม หรือระบบ Delegated Proof of stake ใน Lisk หรือ EOS ก็เป็น Proof of stake ที่เพิ่มระบบผู้แทน (Deleageted ขึ้นมาอีกชั้นหนึ่ง)</p>

<!-- /wp:paragraph -->

<!-- wp:paragraph -->

<p>สรุปว่าระบบ Proof of stake นั้นเป็นอีกหนึ่งระบบที่น่าสนใจสำหรับเทคโนโลยี่ <a href="https://bitcoinaddict.org/2019/12/13/what-is-blockchain-technology/">Blockchain</a> แต่น่าเสียดายว่ามันยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้เท่ากับ Proof of work ของ Bitcoin สำหรับใครที่ห่วงเรื่อง Ethereum จะขุดไม่ได้ก็ไม่ต้องห่วงนะครับท่าทางการที่จะเอา Proo of work &nbsp;ออกจาก Ethereum น่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้แน่นอน</p>

<!-- /wp:paragraph -->

<!-- wp:heading {"level":3} -->

<h3>การทำ Staking ในเหรียญต่างๆ</h3>

<!-- /wp:heading -->

<!-- wp:paragraph -->

<p>หากเราต้องการจะทำ Staking เพื่อรับการปันผลนั้นจริงๆแล้วมันมีความยุ่งยากอยู่พอสมควรตามแต่ละเหรียญ อย่างการ Staking ของ Dash เราต้องมีเหรียญ Dash ถึง 1000 Dash และยังต้องตั้ง Node รวมถึง Server ต่างๆ หรือการ Staking ของ Wave เหรียญที่เราฝากก็ต้องมีการ Lock Up ไว้ช่วงเวลาหนึ่ง นั้นทำให้การ Staking นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนที่ไม่มีความรู้จะทำได้ฃ</p>

<!-- /wp:paragraph -->

<!-- wp:image {"id":8909,"sizeSlug":"large"} -->

<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2020/02/Capture-1024x268.png" alt="" class="wp-image-8909"/></figure>

<!-- /wp:image -->

<!-- wp:paragraph -->

<p>ส่งผมให้มี Exchange ต่างๆนั้นเปิดบริการ Staking แก่ลูกค้าอย่างในไทยนั้นหากเราฝาก Zcoin ไว้ใน <a rel="noreferrer noopener" aria-label="Satang Pro (opens in a new tab)" href="https://satang.pro/signup?referral=STHCGLOO" target="_blank"><strong>Satang Pro</strong></a> เราก็จะได้รับ Zcoin เข้ากระเป่าในทุกๆเดือน ส่วนในเว็บ <a rel="noreferrer noopener" aria-label="Binance (opens in a new tab)" href="https://www.binance.com/en/register?ref=QCBSTTM6" target="_blank">Binance</a> ก็มีเหรียญมากมายให้ฝากเข้าไป Staking รับปันผลได้เช่นกัน</p>

<!-- /wp:paragraph -->

<!-- wp:image {"id":8910,"sizeSlug":"large"} -->

<figure class="wp-block-image size-large"><img src="https://bitcoinaddict.org/wp-content/uploads/2020/02/Capture1-1024x621.png" alt="" class="wp-image-8910"/></figure>

<!-- /wp:image -->

<!-- wp:paragraph -->

<p>อย่างไรก็ตามการ Staking ผ่าน Exchange นั้นแม้จะสะดวกสบายแต่ก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่เหรียญของเราจะฝากอยู่ที่ Exchange ซึ่งก็มีความสุ่มเสี่ยงกว่า ซึ่งหากใครคิดจะ Staking ผ่าน Exchange ก็ควรพิจารณาถึงความเสี่ยงเช่นกัน นอกจากนี้อัตราการปันผลของ Staking ก็ไม่ได้แน่นอนเสมอมันสามารถผันผวนได้ตามจำนวนคนและเหรียญที่ Staking ในระบบไปรวมทั้งยังมีความเสี่ยงเรื่องการผันผวนของค่าเงินที่คนที่คิดจะทำ Staking ควรคำนึง</p>

<!-- /wp:paragraph -->

<!-- wp:paragraph -->

<p></p>

<!-- /wp:paragraph -->

<!-- wp:paragraph -->

<p></p>

<!-- /wp:paragraph -->

<!-- wp:paragraph -->

<p>ที่มา : <a href="https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/what-is-proof-fo-stake/" target="_blank" rel="noreferrer noopener" aria-label=" (opens in a new tab)">LINK</a></p>

<!-- /wp:paragraph -->

‍