Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
Bitcoin Halving ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญของเครือข่าย bitcoin โดยจะลดอัตราเงินรางวัลของการสร้างบล็อคใหม่ลง 50% ทุก ๆ 4 ปี และยังช่วยลดจำนวน Bitcoin ใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาด แต่ยังเพิ่มต้นทุนในการขุดให้สูงขึ้นเพื่อรักษาความปลอดภัยเครือข่าย
ในอดีตเหตุการณ์ Halving ถือว่ามีผลกระทบต่อราคาของ BTC พอสมควรและทำให้นักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบันต้องจับตา ซึ่งคาดกันว่าจะเกิดขึ้นไปจนถึงปี 2140 เมื่อ Bitcoin ถึงขีดจำกัดอุปทานรวมที่ 21 ล้าน BTC
Bitcoin Halving หมายถึงเหตุการณ์ที่จะลดอัตราการออก Bitcoins ใหม่ลง 50% โดยจะเกิดขึ้นหลังจากการขุดทุก ๆ 210,000 บล็อก หรือประมาณทุก ๆ 4 ปี ซึ่งถูกตั้งโปรแกรมโดยผู้สร้างอย่าง Satoshi Nakamoto
วัตถุประสงค์หลักของ Halving คือเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อของ Bitcoin โดยจะการลดอัตราของ Bitcoins ที่ใหม่เข้าสู่ตลาด เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนในระยะยาวและเพิ่มความขาดแคลนของสินทรัพย์ดิจิทัล และยังถือเป็นแนวคิดที่แยบยลหลังจากการเกิดภาวะเงินเฟ้อที่มักพบเห็นได้ในสกุลเงิน Fiat แบบดั้งเดิม และรัฐบาลสามารถพิมพ์เงินได้โดยไม่มีขีดจำกัด ส่งผลให้มูลค่าของเงิน Fiat ลดลง
Bitcoin halving ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2012 โดยเป็นการลดรางวัลบล็อกลงจาก 50 BTC เป็น 25 BTC และครั้งที่สองเกิดขึ้นในวันที่ 9 กรกฎาคม 2016 โดยรางวัลบล็อคลดจาก 25 BTC เป็น 12.5 BTC ส่วนครั้งที่สามเกิดขึ้นในวันที่ 11 พฤษภาคม 2020 ทำให้รางวัลบล็อคลดลงจาก 12.5 BTC เป็น 6.25 BTC และล่าสุดเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2024 ที่ผ่านมา ก็เป็นการ halving ครั้งที่ 4 โดยรางวัลบล็อคลดจาก 6.25 BTC เหลือ 3.125 BTC ทำให้จำนวน BTC ที่ออกสู่ตลาดรายวันลดลงเหลือประมาณ 450 BTC จากเดิมประมาณ 900 BTC
กิจกรรม Halving เหล่านี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อราคาของ Bitcoin และสกุลเงินดิจิตอลอื่น ๆ เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักขุด Bitcoin อีกด้วย เนื่องจากนักขุดจะได้รับ Bitcoin น้อยลง 50% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่าง ๆ ยังคงเท่าเดิม เป็นผลให้เรามักเห็นข่าวทำนองว่ามีนักขุดที่ยอมแพ้ ถอดปลั้กเครื่องขุดตัวเก่าที่แรงขุดน้อย และต้องจำใจออกจากตลาดไปเนื่องจากกำไรที่ขุดได้ไม่พอสำหรับครอบคลุมรายจ่าย
Bitcoin Halving สามารถเกิดขึ้นได้เพื่อรับรองปัจจัยต่อไปนี้เป็นหลัก:
Satoshi Nakamoto ผู้สร้าง Bitcoin ได้สรุปวิธีการของการกำหนดเวลาที่นักขุดจะได้รับรางวัลบล็อค โดยไตร่ตรองถึงสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่ภาวะเงินฝืด (เมื่อกำลังซื้อเพิ่มขึ้น) หรือ อัตราเงินเฟ้อ โดยมองว่าเหรียญต้องมีการกระจายในตอนแรก และค่อย ๆ ปรับลดปริมาณลงทุก ๆ 4 ปี และเป็นความแตกต่างจากบรรทัดฐานสำหรับระบบการเงินสมัยใหม่ที่ธนาคารกลางเป็นผู้ควบคุมปริมาณเงิน เช่น Supply ของเงินดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้นประมาณสามเท่านับตั้งแต่ปี 2000 ที่ผ่านมา
สรุปแล้วกิจกรรม Halving มีเป้าหมายเพื่อรักษาความขาดแคลนของ Bitcoin โดยการค่อย ๆ ลดจำนวนของ Bitcoins ใหม่ ซึ่งในที่สุดกระบวนการนี้จะส่งผลให้มีการขุด Bitcoin ทั้งหมด 21 ล้าน BTC และจะไม่มีการสร้าง Bitcoins ใหม่อีกต่อไปหลังจากถึง Halving ครั้งสุดท้าย และแม้ว่ามันจะเป็นเหตุการณ์สำคัญ แต่ก็เป็นเพียงหนึ่งในหลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อราคาของ Bitcoin
ผู้เชี่ยวชาญและสมาชิกในชุมชนคริปโตต่างมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไปเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการ Halving บางคนก็เชื่อว่าปริมาณเหรียญใหม่ที่ลดลง ประกอบกับความต้องการที่คงที่หรือเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้ราคาแข็งค่าขึ้นอย่างมาก และก็คนอื่น ๆ ที่เตือนว่ากิจกรรมการขุดที่ลดลงเนื่องจากรางวัลที่ได้ลดลงอาจทำให้ราคาลดลงได้ในระยะสั้น
นอกจากนี้ยังอาจมีผลกระทบเชิงลบจากนักลงทุนสมัครเล่นที่ถูกล่อลวงให้เข้ามาลงทุนด้วยหวังว่าจะได้เห็นการเพิ่มขึ้นของราคาจากการโฆษณาตามสื่อต่าง ๆ ที่เกินจริง
Bitcoin Halving ครั้งต่อไปคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน 2028 และจะดำเนินต่อไปจนถึงประมาณปี 2140 ซึ่งเมื่อถึงจุดนั้น นักขุดจะได้รับเพียงค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมในการประมวลผลเท่านั้น ซึ่งก็น่าสนใจทีเดียวว่ากลไกแรงจูงใจจะเป็นอย่างไรหลังจากที่ไม่สามารถขุดได้แล้ว และนักขุดในอนาคตจะหันไปพึ่งพาสิ่งจูงใจใดเพื่อรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย