Announcement เปลี่ยนจากตรงนี้

May 30, 2024
บทความ

Liquid Staking คืออะไร และทำงานอย่างไร

Liquid Staking ช่วยให้ผู้ Stake สามารถรักษาสภาพคล่องของโทเค็นที่ stake ไว้ในเครือข่ายบล็อคเชน Proof of Stake (PoS) โดยใช้โทเค็นทดแทนที่สามารถใช้เพื่อรับผลตอบแทนเพิ่มเติมผ่านโปรโตคอล DeFi

Liquid Stake ยังมอบความยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ใช้ในการเข้าถึงสภาพคล่องโดยไม่ต้อง unstake ช่วยให้สามารถจัดสรรเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประโยชน์มากขึ้น

Liquid staking ?

ก่อนที่จะไปถึงเรื่องของ liquid staking เรามาทำความเข้าใจการ staking และปัญหาที่เกี่ยวข้องกันก่อน ซึ่งการ staking หมายถึง validator ทำการ staking โทเค็นดั้งเดิมของ PoS blockchain เพื่อสุ่มรับโอกาสในการตรวจสอบบล็อกในเครือข่ายบล็อกเชน

เมื่อโทเค็นถูก Stake แล้ว โทเค็นจะถูกล็อคและไม่สามารถนำไปใช้หรือแลกเปลี่ยนได้จนกว่าระยะเวลาการ Stake จะสิ้นสุดลง อย่างไรก็ตามด้วย liquid staking ผู้ถือโทเค็นสามารถเพลิดเพลินไปกับมูลค่าของสินทรัพย์ที่ Stake ต่อไปได้ โดยไม่ต้อง unstake โทเค็น

Stake-as-a-service คืออะไร?

Stake-as-a-service เป็นแพลตฟอร์มที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อกลไก consensus ของบล็อกเชนกับผู้ถือสกุลเงินดิจิทัลที่ต้องการมีส่วนร่วมในการทำงานของเครือข่าย

Stake-as-a-service เป็นแพลตฟอร์มหรือบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ delegate สินทรัพย์ crypto ของตนให้กับบุคคลที่สาม ซึ่งจากนั้นจะทำการ staking ในนามของผู้ใช้ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการเสียค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งของรางวัล

โดย JP Morgan ตั้งข้อสังเกตว่าภายในปี 2025 ภาคบริการ staking จะเติบโตจนมีมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่บริการ Crypto staking จะมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจเกิดใหม่นี้ และ liquid staking จะเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจเกิดใหม่นี้เช่นกัน

แพลตฟอร์ม Stake-as-a-service สามารถแบ่งได้เป็นแบบ custodial และ noncustodial ขึ้นอยู่กับระดับการกระจายอำนาจ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการปกป้องผลประโยชน์สูงสุดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและรักษาความโปร่งใส และเพื่ออำนวยความสะดวกในการกำกับดูแลแบบกระจายอำนาจ การตัดสินใจที่สำคัญจะกระทำโดยองค์กรอิสระแบบกระจายอำนาจ ( DAO )

ในส่วนของ staking-as-a-service แบบ custodial จะเกี่ยวข้องกับการจัดการที่กว้างขวางของกระบวนการการ staking โดยบริการ Stake ที่นำเสนอโดยเว็บเทรด crypto นั้นจะเป็น custodial ส่วนรางวัลจะตกเป็นของผู้ให้บริการ staking ก่อนจะแจกจ่ายให้กับผู้ที่ stake

ขณะที่ staking-as-a-service แบบ noncustodial ทางด้าน validator จะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นจากใครก็ตามที่ต้องการมีส่วนร่วมในการ staking โดยในเครือข่าย PoS ที่สนับสนุน native delegation นั้น ส่วนแบ่งรางวัลของผู้ที่ stake จะถูกส่งตรงถึงพวกเขาโดยตรง โดยไม่ต้องมีส่วนร่วมจาก validator

วิธีการทำงานของ liquid staking

Liquid Staking ได้รับการออกแบบมาเพื่อขจัดกฎเกณฑ์ของ Stake และช่วยให้ผู้ถือสามารถทำกำไรด้วย liquid token

Stake Pool ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวม Stake ขนาดเล็กหลาย ๆ รายการให้เป็น Stake ขนาดใหญ่ได้โดยใช้ smart contract โดยจะมอบ liquid token (ซึ่งเป็นตัวแทนของส่วนแบ่งใน Pool) ให้กับผู้ Stake แต่ละคน ทำให้ Stake สร้างรายได้ได้สองเท่า โดยในด้านหนึ่ง พวกเขาจะสร้างรายได้จากโทเค็นที่ Stake ไว้ และในทางกลับกัน ก็ทำกำไรด้วย liquid token โดยการนำไปใช้กิจกรรมต่าง ๆ เช่น การซื้อขาย , การให้กู้ยืม , หรือกิจกรรมอื่นใด โดยไม่ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งที่ stake เดิม

การใช้ Lido เป็นกรณีศึกษา จะช่วยให้เราเข้าใจได้ดีขึ้นว่า liquid staking ทำงานอย่างไร โดย Lido เป็นโซลูชัน liquid staking ซึ่งรองรับบล็อกเชน PoS มากมาย รวมถึง Ethereum, Solana, Kusama, Polkadot และ Polygon โดย Lido นำเสนอโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมเพื่อรับมือกับอุปสรรคของการ Stake PoS แบบดั้งเดิม โดยการลดอุปสรรคในการเข้าใช้งานและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการล็อคทรัพย์สินของตนไว้ในโปรโตคอลเดียวอย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้ใช้ที่ฝากทรัพย์สินของตนกับ Lido จะถูก stake บน Lido blockchain ผ่านทางโปรโตคอล Lido และอนุญาตให้ผู้ถือ ETH สามารถ stake เศษส่วนของเกณฑ์ขั้นต่ำ 32 ETH ได้เพื่อรับรางวัลบล็อก โดยเมื่อฝากเงินเข้าใน staking pool smart contract ของ Lido แล้ว ผู้ใช้จะได้รับ Lido Staked ETH (stETH) ซึ่งเป็นโทเค็นที่เข้ากันได้กับ ERC-20 ซึ่งจะสร้างเสร็จเมื่อมีการฝากและเผาทิ้งเมื่อถอนออก

โปรโตคอลจะทำการกระจาย ETH ที่ stake ไว้ให้กับ validator (ผู้ดำเนินการโหนด) ภายในเครือข่าย Lido และต่อมาจะฝากไว้ที่ Ethereum Beacon Chain เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง โดยเงินเหล่านี้จะได้รับการปกป้องใน smart contract ซึ่ง validator ไม่สามารถเข้าถึงได้ โดย ETH ที่ฝากผ่านโปรโตคอล Lido staking จะถูกแยกออกเป็นชุดๆ ละ 32 ETH ในหมู่ผู้ดำเนินการโหนดที่ใช้งานบนเครือข่าย

ผู้ดำเนินการเหล่านี้จะใช้ public validation key เพื่อตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่ stake ของผู้ใช้ โดยกลไกนี้ช่วยให้ทรัพย์สินที่ stake ของผู้ใช้สามารถกระจายไปยัง validator หลายตัว ช่วยลดความเสี่ยงของ single points of failure และ single validator staking

ผู้ Stake ที่ฝากโทเค็นของ Solana ( SOL ), Polygon ( MATIC ), Polkadot ( DOT ) และ Kusama KSM ด้วยชุด smart contracts ใน Lido จะได้รับ stSOL, stMATIC, stDOT และ stKSM ตามลำดับ โดย stTokens สามารถใช้สำหรับการรับผลตอบแทน DeFi , การจัดหาสภาพคล่อง , การซื้อขายในเว็บเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEX) และกรณีการใช้งานอื่น ๆ อีกมากมาย

ความเสี่ยง ?

เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการใด ๆ ในพื้นที่สกุลเงินดิจิทัล เราจะต้องคำนึงถึงภัยคุกคามทางเทคนิคและความผันผวนของตลาด เมื่อต้องจัดการกับ liquid staking

ภัยคุกคามทางเทคนิค : บล็อกเชน PoS ยังค่อนข้างใหม่ และมีโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดหรือช่องโหว่ของโปรโตคอลที่นำไปสู่การสูญเสียทรัพย์สินหรือการโขมตีช่องโหว่อยู่เสมอ การพึ่งพา validator ในการ staking ยังทำให้เกิดความเสี่ยงต่อคู่สัญญาด้วย

ความเสี่ยงด้านตลาด : Liquid staking จะปลดล็อกสินทรัพย์ที่ stake เอาไว้ ทำให้เราได้รับรางวัลจากแอปพลิเคชัน DeFi อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังมาพร้อมความเสี่ยงที่จะสูญเสียในช่วงที่ตลาดตกต่ำอีกด้วย

การรักษาแพลตฟอร์มที่มีสภาพคล่องให้เป็นโอเพ่นซอร์ส และได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันภัยคุกคามได้ในระดับหนึ่ง และการมีโปรแกรม bounty สำหรับแพลตฟอร์มก็จะช่วยลดข้อผิดพลาดอีกด้วย

การดำเนินการตรวจสอบสถานะอย่างครอบคลุมก็เป็นสิ่งสำคัญในการต่อสู้กับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของตลาด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้นคว้าข้อมูลตลาดในอดีต , การประเมินสถานะทางการเงินของการลงทุนที่มีศักยภาพ , การทำความเข้าใจภาพรวมด้านกฎระเบียบ , และพัฒนากลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลาย

บทสรุป

ด้วยการรวมข้อดีของการ stake เข้ากับความยืดหยุ่นในการเข้าถึงสภาพคล่อง ทำให้ช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับผู้ถือสกุลเงินดิจิทัล ด้วยความสามารถในการควบคุมยูทิลิตี้เพิ่มเติมจากสินทรัพย์ที่ stake ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและอาจลดต้นทุนเสียโอกาสลงได้ด้วย

บทความที่คุณอาจสนใจ