Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
Bitcoin ยังคงซื้อขายต่ำกว่าระดับสำคัญที่ $100,000 ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ หลังจากที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าโลก ซึ่งเกิดขึ้นจากการประกาศกำแพงภาษีนำเข้าใหม่โดยสหรัฐฯ และจีน
อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดจะซบเซาชั่วคราว แต่โอกาสที่ Bitcoin จะทะยานแตะระดับ $1.5 ล้านต่อเหรียญกลับเพิ่มขึ้น ตามการวิเคราะห์ของ Cathie Wood ซีอีโอของ ARK Invest
“หลายคนรู้จักเราในฐานะผู้ที่มอง Bitcoin ในเชิงบวก โดยเรามองว่าราคามีโอกาสไปถึง $1.5 ล้าน” Wood กล่าว
“ตอนนี้เรามองว่าโอกาสที่กรณี ‘ขาขึ้น’ ของเราจะเป็นจริงนั้นเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังกลายเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในหมู่สถาบันการเงิน”
Wood ยังเสริมว่า นักลงทุนน้ำหนักมากขึ้นกำลังมองว่า Bitcoin ควรถูกเพิ่มในพอร์ตการลงทุนของพวกเขา เพราะโปรไฟล์ผลตอบแทนและความเสี่ยงของมันแตกต่างจากสินทรัพย์อื่นๆ ที่พวกเขาถืออยู่
การคาดการณ์ราคาที่เป็นบวกจากบริษัทการลงทุนขนาดใหญ่ เช่น ARK Invest อาจช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนสถาบันมากขึ้น และการเติบโตของ ETF ที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin อาจช่วยผลักดันราคาขึ้นไปอีก เนื่องจากสถาบันการเงินถือเงินทุนจำนวนมหาศาลที่สามารถเคลื่อนตลาดคริปโตได้
ตามรายงาน Big Ideas 2025 ของ ARK Invest ราคาของ Bitcoin อาจพุ่งแตะระดับ $1.5 ล้าน ภายในปี 2030 หากสามารถเติบโตเฉลี่ยที่อัตรา 58% ต่อปี (CAGR) ในช่วงห้าปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ในกรณีฐาน (Base Case) ARK Invest คาดว่า Bitcoin จะเติบโตเฉลี่ย 40% CAGR ซึ่งจะทำให้ราคา Bitcoin อยู่ที่ประมาณ $710,000 ภายในปี 2030
ขณะที่ในกรณีแย่ที่สุด (Bear Case) หาก Bitcoin เติบโตเฉลี่ยเพียง 21% CAGR ราคาจะอยู่ที่ $300,000 ภายในปีเดียวกัน
แต่ในระยะสั้น การปรับตัวของ Bitcoin ยังคงถูกจำกัด จนกว่าราคาจะสามารถ “ทะลุแนวต้านที่ $100,000” ได้อย่างเด็ดขาด ตามการวิเคราะห์ของ Iliya Kalchev นักวิเคราะห์จาก Nexo
Kalchev ระบุในบันทึกวิจัยว่า นักลงทุนกำลังจับตาดูว่าราคา Bitcoin จะสามารถทะลุระดับ $100,000 ได้หรือไม่
“หากไม่สามารถทะลุแนวต้านนี้ อาจเกิดแรงขายระยะสั้นกดดันราคาลงไปที่ $95,000 แต่หากสามารถทะลุผ่านไปได้ ราคามีโอกาสพุ่งขึ้นไปสู่แนวต้านถัดไปที่ $106,500”
อีกหนึ่งปัจจัยที่อาจช่วยหนุนราคาของ Bitcoin คือภาวะ “Supply Shock” เนื่องจากปริมาณ Bitcoin ที่เหลืออยู่บนกระดานเทรดมีเพียง 2.5 ล้าน BTC เท่านั้น
Supply Shock เกิดขึ้นเมื่อมีความต้องการซื้อที่แข็งแกร่ง ขณะที่อุปทานของ Bitcoin ที่มีอยู่ในตลาดลดลง ทำให้ราคามีแนวโน้มพุ่งขึ้นตามกลไกตลาด
นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตาว่า Bitcoin จะสามารถทะลุแนวต้านสำคัญ และเดินหน้าสู่เป้าหมาย $1.5 ล้านได้จริงหรือไม่
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ nasdaq.com