Charles Hoskinson ชี้ Meta, Google, Apple อาจลุยสร้าง Layer-1 เอง หากกฎหมาย Stablecoin ผ่าน

Charles Hoskinson ผู้ก่อตั้ง Cardano อธิบายว่าบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Meta, Google, Apple, Microsoft และ Amazon อาจกลายเป็นคู่แข่งโดยตรงของบล็อกเชน Layer-1 ในอนาคต เนื่องจากพวกเขาสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนของตัวเองได้ หากมีกฎระเบียบที่ชัดเจน

บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่พร้อมบุกตลาดคริปโต

ในการสนทนาบน X (Twitter Spaces) Hoskinson กล่าวว่า Meta, Google, Apple, Microsoft และ Amazon อาจเข้าสู่ตลาดคริปโตอย่างเต็มรูปแบบหลังจากร่างกฎหมาย Stablecoin ผ่านการรับรอง เขาให้ตัวอย่างว่าบริษัทเหล่านี้อาจ ออกเหรียญ Stablecoin ของตัวเอง หรือ จับมือกับบริษัทที่ให้บริการด้าน Stablecoin อย่าง Circle เพื่อเข้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ เขายังชี้ให้เห็นว่า Apple มี Apple Pay และ Google มี Google Pay ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบที่ช่วยให้พวกเขาสามารถแข่งขันกับเครือข่าย Layer-1 ได้อย่างง่ายดาย

Hoskinson อธิบายเพิ่มเติมว่า บริษัทเหล่านี้มีผู้ใช้หลายพันล้านคน และควบคุมระบบปฏิบัติการของอุปกรณ์มือถือทั่วโลก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้เครือข่าย Layer-1 ดั้งเดิมเสียเปรียบ

นอกจากนี้ เขาเชื่อว่า Meta อาจลองสร้าง Layer-1 ของตัวเองอีกครั้ง โดยยกตัวอย่างว่า Meta เคยพยายามเข้าสู่วงการคริปโตมาแล้ว แต่ล้มเหลวเพราะกฎระเบียบที่ยังไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม หากสภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายคริปโตที่รอดำเนินการอยู่ Meta และบริษัทเทคอื่น ๆ อาจกลับมาเดินหน้าสู่ตลาดคริปโตได้อีกครั้ง

สภาคองเกรสอาจผ่านกฎหมาย Stablecoin ใน 100 วัน Meta, Google และ Apple พร้อมลุย

Hoskinson เปิดเผยว่า จากข้อมูลของเขาเอง สภาคองเกรสสหรัฐฯ อาจผ่านร่างกฎหมาย Stablecoin ภายใน 100 วันข้างหน้า ซึ่งหมายความว่าบริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้จะไม่พลาดโอกาสในการเข้าสู่ตลาดคริปโต

เขายังเสริมว่า Layer-1 อาจแข่งขันกับบริษัทเหล่านี้ได้ยาก เนื่องจากพวกเขามี เครือข่ายผู้ใช้ขนาดใหญ่ และใบอนุญาตที่สามารถขยายธุรกิจไปยังตลาดคริปโตได้ทันที นอกจากนี้ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อาจใช้กลยุทธ์ที่ไม่เป็นธรรม เช่น บล็อกการเข้าถึงเครือข่าย Layer-1 บนอุปกรณ์ของตนเอง เพื่อดึงดูดผู้ใช้เข้าสู่แพลตฟอร์มของตน

อีกหนึ่งประเด็นที่น่ากังวลคือ บริษัทเหล่านี้อาจหยุดให้บริการรันโหนดบนเครือข่าย Layer-1 ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงานของบล็อกเชนแบบกระจายศูนย์

Hoskinson ยังกล่าวถึง “Confidential Computing” หรือระบบประมวลผลข้อมูลที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้มีเหนือ Layer-1 ในปัจจุบัน ขณะที่บล็อกเชนส่วนใหญ่ยังคงใช้ สภาพแวดล้อมการประมวลผลแบบเจเนอเรชันที่สอง ซึ่งอาจมีความน่าเชื่อถือน้อยกว่า

คำพูดของ Hoskinson เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่มีข่าวลือเกี่ยวกับ ความเป็นไปได้ในการเป็นพันธมิตรระหว่าง Cardano และ Microsoft ซึ่งกระตุ้นให้เกิดมุมมองเชิงบวกต่อราคาของ ADA นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าเหรียญอาจพุ่งกลับไปสู่จุดสูงสุดตลอดกาลที่ $3.10 ได้อีกครั้ง

อ้างอิง : coingape.com
ภาพ coinstats.app

‍