Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
Plume เครือข่ายบล็อกเชนเลเยอร์ 1 (L1) แรกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการเงินที่ใช้สินทรัพย์ในโลกจริง (Real World Asset Finance หรือ RWAfi) ประกาศเปิดตัว PayFi Vault ซึ่งขับเคลื่อนด้วย PYUSD บนผลิตภัณฑ์สตรีมผลตอบแทนหลักของบริษัทอย่าง Nest การเปิดตัวนี้จะนำระบบการเงินเพื่อการชำระเงินเข้าสู่โลกบล็อกเชน พร้อมใช้สินทรัพย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากสเตเบิลคอยน์ระดับสถาบัน
PayFi Vault จะได้รับการสนับสนุนโดย PYUSD เป็นหลักในระยะแรก ซึ่งเป็นสเตเบิลคอยน์ที่ได้รับการสำรองเต็มจำนวนและถูกออกแบบมาให้มีมูลค่าคงที่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสินทรัพย์ค้ำประกัน ได้แก่ เงินฝากดอลลาร์ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และสินทรัพย์เทียบเท่าเงินสด โครงสร้างนี้ช่วยสร้างสะพานเชื่อมระหว่างระบบชำระเงินแบบดั้งเดิมและการเงินบนบล็อกเชน นอกจากนี้ยังมีแผนจะเพิ่มสินทรัพย์คุณภาพสูงอื่น ๆ เมื่อระบบเติบโตขึ้น เพื่อขยายโอกาสด้านการเงินระดับสถาบันให้กับผู้ใช้งานทั่วโลก
PayFi เป็นระบบที่ครอบคลุมทุกมิติของการชำระเงิน โดย PayFi Vault จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน การค้า การบริหารสินค้าคงคลัง และการจัดหาเงินทุนระยะสุดท้ายในห่วงโซ่อุปทาน สิ่งนี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้ง PayFi ยังคงเป็นสินทรัพย์ประเภทใหม่ที่ยังไม่ได้รับการใช้งานอย่างเต็มศักยภาพบนบล็อกเชน
การนำ PayFi มาสู่โลกบล็อกเชนผ่านการแปลงสินทรัพย์ให้เป็นโทเคน เช่น ใบแจ้งหนี้ ลูกหนี้การค้า และภาระผูกพันในการชำระเงิน จะเปิดโอกาสให้เกิดผลิตภัณฑ์สร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าถึงได้ในระดับโลก
Stablecoins อย่าง PYUSD เป็นรากฐานสำคัญของนวัตกรรม PayFi onchain เนื่องจากเป็นที่ยอมรับในฐานะมาตรฐานเงินดิจิทัล สามารถโอนมูลค่าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ด้วยการสนับสนุนเต็มจำนวนและการชำระเงินผ่านบล็อกเชนที่ไร้รอยต่อ ทำให้สเตเบิลคอยน์กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับกลไกการเงินที่เร็วขึ้น เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และมีต้นทุนต่ำลง
เมื่อใช้ PYUSD เป็นเลเยอร์สภาพคล่อง nPAYFI Vault บน Nest จะช่วยขยายขอบเขตการใช้งานของสินทรัพย์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก RWA นอกเหนือจากการชำระเงิน โดยเปิดโอกาสให้เกิดกลไกการสร้างผลตอบแทนจากสเตเบิลคอยน์ที่ก่อนหน้านี้ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ รวมถึงการเงินระยะสั้นและการเงินเพื่อการชำระเงิน
ผู้เข้าร่วมใน Vault จะสามารถเข้าถึงผลตอบแทนที่เกิดจากกระแสเงินสดจริง โดยผลตอบแทนที่เกิดจาก PYUSD จะถูกส่งคืนให้แก่ผู้ฝากเงิน ในขณะเดียวกันยังคงได้รับความมั่นคงจากการถือครองสเตเบิลคอยน์ที่ได้รับการสนับสนุนเต็มจำนวนและอยู่ภายใต้การกำกับดูแล
การเปิดตัว PayFi Vault ตอกย้ำบทบาทของ ชั้นสกุลเงิน (currency layer) และชั้นการเงิน (financing layer) ในระบบการเงินบนบล็อกเชน
การเปิดตัว nPAYFI Vault บน Nest เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของ Plume ในการนำสินทรัพย์ในโลกจริงเข้าสู่บล็อกเชนอย่างครบวงจร PayFi เป็นอีกหนึ่งหมวดหมู่ของ RWA ที่สอดคล้องกับแนวทางของ Plume โดยการนำ PYUSD และโซลูชัน PayFi เข้ามาสู่ระบบการเงินบล็อกเชน จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและประสิทธิภาพของสินทรัพย์เหล่านี้ในตลาดโลก
การแนะนำโซลูชัน structured payment financing โดยใช้สเตเบิลคอยน์ ทำให้ Plume สามารถวางรากฐานของระบบการเงินที่ ครอบคลุมและขยายตัวได้ง่าย
“สเตเบิลคอยน์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก RWA ไม่ได้เป็นเพียงสื่อกลางแลกเปลี่ยนอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นโครงสร้างหลักของโซลูชันการเงินระยะสั้น” – Teddy Pornprinya, ผู้ร่วมก่อตั้ง Plume
nPAYFI ยังมีแผนขยายโอกาสด้านผลตอบแทนผ่านพันธมิตรทางกลยุทธ์ที่จะประกาศเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของระบบนิเวศ PayFi ของ Plume เมื่อ Plume ยังคงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ RWA ต่อไป PayFi Vault ถือเป็นก้าวสำคัญในการนำการเงินเพื่อการชำระเงินเข้าสู่โลก DeFi โดยใช้สเตเบิลคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพสำหรับการใช้งานทางการเงินในโลกจริง
Plume เป็นเครือข่ายบล็อกเชนเลเยอร์ 1 (L1) เต็มรูปแบบที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับ Real World Asset Finance (RWAfi) ช่วยให้สินทรัพย์ในโลกจริงสามารถบูรณาการเข้าสู่ระบบการเงินบนบล็อกเชนได้อย่างราบรื่น ด้วยโครงการที่กำลังพัฒนาอยู่บนเครือข่ายมากกว่า 180+ โปรเจกต์ และกองทุน RWAfi Ecosystem Fund มูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการระยะเริ่มต้น Plume มอบสภาพแวดล้อมที่สามารถทำงานร่วมกันได้ (composable) และรองรับ EVM-compatible สำหรับการนำสินทรัพย์ในโลกจริงเข้าสู่บล็อกเชนและการจัดการสินทรัพย์เหล่านั้น
Plume ยังมี โครงสร้างการแปลงสินทรัพย์เป็นโทเคน (tokenization engine) แบบครบวงจร และเครือข่ายพันธมิตรด้านโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน ทำให้สามารถนำสินทรัพย์เข้าสู่ DeFi ได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้ทุกคนสามารถ แปลงสินทรัพย์ในโลกจริงเป็นโทเคน กระจายไปทั่วโลก และนำไปใช้งานในตลาดคริปโตได้
เรียนรู้เพิ่มเติมที่:
Website
Twitter (X)