Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
Standard Chartered Bank Hong Kong, Animoca Brands และ Hong Kong Telecommunications (HKT) ได้ร่วมมือกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อออก Stablecoin ที่มีมูลค่าหนุนหลังด้วยดอลลาร์ฮ่องกง (HKD)
กลุ่มพันธมิตรนี้มีแผนยื่นขอใบอนุญาตจาก Hong Kong Monetary Authority (HKMA) ซึ่งทำหน้าที่เป็นธนาคารกลางโดยพฤตินัยของฮ่องกง
การมีส่วนร่วมของ Standard Chartered นั้นน่าสนใจ เนื่องจากระบบการเงินของฮ่องกงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต่างจากประเทศที่มีธนาคารกลางออกเงินโดยตรง
ในฮ่องกง HKMA ไม่ใช่ผู้ออกสกุลเงิน โดยตรง แต่ทำหน้าที่กำกับดูแล HSBC, Bank of China (Hong Kong) และ Standard Chartered ซึ่งเป็นธนาคารผู้ออกเงินดอลลาร์ฮ่องกงแทน
ที่ผ่านมา Standard Chartered มีบทบาทในการร่วมมือกับผู้ออกสเตเบิลคอยน์ และเคยเข้าร่วมโครงการเงินโทเคไนซ์ของ HKMA มาก่อนแล้ว
ด้าน Animoca Brands เป็นบริษัทชั้นนำด้านบล็อกเชนและมีสถานะเป็น “ยูนิคอร์น” ขณะที่ HKT เชี่ยวชาญด้านระบบชำระเงินผ่านมือถือ
บริษัทร่วมทุนนี้มีแผนศึกษาแนวทางการใช้สเตเบิลคอยน์สำหรับการชำระเงินทั้งในประเทศและข้ามพรมแดน นอกจากนี้บริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะยื่นขอใบอนุญาตภายใต้ ร่างกฎหมาย Stablecoin ของฮ่องกง ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ร่างกฎหมายนี้ถูกเสนอเข้าสู่ สภานิติบัญญัติฮ่องกง (Legislative Council) เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024 และมีการอ่านครั้งแรกจากทั้งหมดสามครั้งในวันที่ 18 ธันวาคม
หากผ่านการบังคับใช้ กฎหมายจะกำหนดให้ ผู้ออก Stablecoin ต้องได้รับใบอนุญาตจาก HKMA และปฏิบัติตามข้อกำหนดด้าน เงินสำรองและเสถียรภาพของราคา
ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024 บริษัททั้งสามแห่งได้เข้าร่วม โครงการทดลอง Stablecoin (Stablecoin Issuer Sandbox) ของ HKMA ร่วมกับ Jingdong Coinlink Technology และ RD InnoTech
Jingdong Coinlink ประกาศแผนออก Stablecoin ที่ตรึงกับค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกง ในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ RD InnoTech ได้จับมือกับ HashKey Exchange เพื่อพัฒนาเหรียญ Stablecoin ของตัวเอง
ฮ่องกงกำลังเร่งผลักดันตัวเองเป็น ศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อแข่งขันกับ สิงคโปร์ โดยมีการอนุมัติให้ซื้อขาย กองทุน ETF ของ Bitcoin และ Ethereum ในรูปแบบสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
นอกจากนี้ ฮ่องกงยังมี ระบบใบอนุญาตเข้มงวดสำหรับแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต โดยปัจจุบันมี 9 แพลตฟอร์ม ที่ได้รับใบอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SFC)
HashKey เป็นหนึ่งในสองแพลตฟอร์มแรกที่ได้รับใบอนุญาตในเดือนพฤศจิกายน 2022 และถือครองสถานะพิเศษนี้จนถึงช่วงปลายปี 2024 ก่อนที่หน่วยงานกำกับดูแลจะเปิดให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้น
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ crypto-economy.com