จับ 4 แฮ็กเกอร์รัสเซียในภูเก็ต! เบื้องหลังขบวนการเรียกค่าไถ่คริปโตระดับโลก

ในปฏิบัติการร่วมระดับนานาชาติ เจ้าหน้าที่ไทยในจังหวัดภูเก็ตได้ควบคุมตัวชาวรัสเซีย 4 คน ที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ การโจมตีเรียกค่าไถ่คริปโต (crypto ransomware attacks) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

เปิดโปงแก๊ง 8Base: กลุ่มแฮ็กเกอร์ระดับโลกที่ใช้มัลแวร์ Phobos โจมตีเหยื่อ

ผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 รายนี้ เชื่อว่าเป็นสมาชิกของกลุ่ม 8Base ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการอาชญากรรมไซเบอร์จากการใช้ Phobos ransomware เพื่อเข้ารหัสข้อมูลเหยื่อและเรียกค่าไถ่

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ สื่อท้องถิ่นของไทย รายงานว่า กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซียนี้ได้โจมตีบริษัทในสวิตเซอร์แลนด์ถึง 17 แห่ง ระหว่างเดือนเมษายน 2023 – ตุลาคม 2024

การจับกุมครั้งนี้ เป็นผลจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานจาก 14 ประเทศ ซึ่งนำไปสู่การยึดและปิดเซิร์ฟเวอร์ของเครือข่ายอาชญากรถึง 27 จุดทั่วโลก

Europol เปิดเผยว่า “ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายระดับนานาชาติเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นำไปสู่การจับกุมแกนนำ 4 รายของกลุ่ม 8Base”

ผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่า เจาะระบบเครือข่ายของบริษัทในยุโรปหลายแห่ง และเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเรียกค่าไถ่เป็น สกุลเงินดิจิทัล (cryptocurrency)

Phobos ransomware มักมุ่งเป้าโจมตีธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่ขาดมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่ง

นอกจากการโจมตีในยุโรปแล้ว กลุ่มนี้ยังเชื่อมโยงกับเหยื่อกว่า 1,000 รายทั่วโลก โดยมูลค่าความเสียหายที่ถูกขโมยไป สูงถึง 16 ล้านดอลลาร์ในรูปแบบ Bitcoin

ขณะนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนอยู่ระหว่างรอการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางไซเบอร์

การจับกุมครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมคริปโตในระดับโลก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง ภัยคุกคามข้ามพรมแดนของอาชญากรรมไซเบอร์ และความจำเป็นของความร่วมมือระหว่างประเทศ

ที่ผ่านมา ภูเก็ตกลายเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยก่อนหน้านี้

• ในเดือนพฤศจิกายน 2024 นักธุรกิจชาวยูเครนถูกบังคับให้โอน USDT มูลค่า 250,000 ดอลลาร์ ขณะมาเยี่ยมเพื่อนที่ภูเก็ต
• ก่อนหน้านั้นในต้นปีเดียวกัน ตำรวจไทยเคยออกตามล่าผู้ต้องสงสัยชาวรัสเซียที่ทำร้ายและปล้นเงินคริปโตมูลค่า 20,000 ดอลลาร์จากเพื่อนร่วมชาติในโรงแรมย่านกะรน

การจับกุมขบวนการ 8Base ครั้งนี้ สะท้อนถึงเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่ซับซ้อนและส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก

ขณะที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศยังคงเดินหน้ากวาดล้างอาชญากรรมเหล่านี้ นักลงทุนและผู้นำธุรกิจจำเป็นต้องทบทวนกลยุทธ์การป้องกันและรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิทัลของตน เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

อ้างอิง : cryptonews.com

‍